xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี และการเร่งเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ ประเมินดัชนีผันผวนในกรอบ 1,485-1,530 จุด กลุ่มพลังงาน PTT TOP เด่นจากอานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น และกลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรมรับผลดีจากมาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ด้านราคาทองคำได้อานิสงส์ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อน หนุนราคาทองคำปรับตัวช่วงสั้น ให้แนวรับ 1,150-1,140 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,200-1,210 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี และการเร่งเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ รวมถึงโพลคาดการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในรอบนี้จะขยายเวลาการใช้ QE 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ออกไปอีก 3-6 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.60 และแรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

ทั้งนี้ ยังคงมีความกังวลจากผลการทำประชามติในอิตาลีที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลถึงเสถียรภาพการเมืองของอิตาลี และเสถียรภาพของกลุ่มประเทศยูโรโซน ประกอบกับการคาดการณ์ว่า Fed มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 ธ.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดีกว่าคาด และอัตราการว่างงานที่ลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 4.6% จาก 4.9% และ Foreign เป็น Net Sell ตั้งแต่เดือน พ.ย. เกือบ 4 หมื่น ลบ.

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 7 ธ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 8 ธ.ค. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และในวันที่ 13-14 ธ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินจาก LTF RMF ในช่วงปลายปี ประกอบกับการดีดตัวของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความกังวล Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ fund flow ยังคงกดดันทิศทางดัชนี

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบ 1,485-1,530 จุด ทั้งนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มพลังงาน PTT TOP เด่นจากอานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลง 7 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.59% ปิดที่ระดับ 1,176 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ จากแรงกดดันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งจากรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี ประกอบกับรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. และรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. ซึ่งได้เพิ่มความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้

ขณะที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการเฟด เตรียมประสานเสียงร่วมกับกรรมการเฟด คนอื่นๆ ในการสนับสนุนให้เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึง นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงจากแรงขายทำกำไรได้สร้างแรงหนุนช่วงสั้นๆ ต่อราคาทองคำ ส่งผลให้ราคาปรับลงในกรอบที่แคบขึ้น

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกข้างตามแรงกดดันแนวต้านเส้น 5 และ 10 วัน ขณะที่แนวโน้มลงยังกดดันอยู่ อย่างไรก็ตาม ค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มฟื้นตัวจะช่วยลดแรงถ่วงให้ราคาปรับลงไม่มาก โดยมีแนวรับ 1,150-1,140 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,200-1,210 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น