ทริส เรทติ้ง ยันอันดับเครดิตแบงก์ทิสโก้ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีสหวิริยาสตีลฯ ระบุเป็นผลกระทบในระยะสั้นที่ต้องสำรองเพิ่มเติมในไตรมาส 3 และกำไรที่ชะลอลง แต่ฐานะเงินกองทุนยังอยู่ในระดับแข็งแกร่ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มีความเห็นว่า อันดับเครดิตของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ไม่ได้รับผลกระทบจากการเสื่อมถอยลงของสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรี ซึ่งส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติม ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดชั้นกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรีซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่ของธนาคารให้เป็นหนี้ด้อยคุณภาพเมื่อเร็วๆ นี้ และส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ธนาคารได้ตั้งสำรองไว้แล้วบางส่วนในอดีตสำหรับกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรี และแม้ว่าการตั้งสำรองเพิ่มเติมในครั้งนี้จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2558 ของธนาคารลดต่ำลงกว่าการคาดการณ์ของทริส เรทติ้ง แต่การลดลงของกำไรจะเกิดขึ้นเฉพาะในปีนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ เงินกองทุนของธนาคารยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อีกทั้งธนาคารยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รวมทั้งคุณภาพสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแม้ว่าจะเสื่อมถอยลงไปบ้าง
ทั้งนี้ ธนาคารทิสโก้ยังคงมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีแม้ว่าจะเสื่อมถอยลงไปบ้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 2.6% ณ เดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 3.0% นอกจากนี้ เงินกองทุนของธนาคารยังแข็งแกร่งขึ้นจากการเพิ่มทุนในช่วงปี 2556-2557 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง และเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน2558 เท่ากับ 13.13% และ 17.54% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การตั้งสำรองเพิ่มเติมสำหรับลูกหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่กลุ่มนี้ไม่น่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะเงินกองทุนของธนาคาร โดยเงินกองทุนตามกฎหมายจะยังคงเพียงพอต่อการขยายสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน ทริส เรทติ้งให้อันดับเครดิตแก่ธนาคารทิสโก้ที่ระดับ “A” สำหรับอันดับเครดิตขององค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และอันดับเครดิตที่ระดับ “A-” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ และ อันดับเครดิตที่ระดับ “BBB+” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มีความเห็นว่า อันดับเครดิตของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ไม่ได้รับผลกระทบจากการเสื่อมถอยลงของสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรี ซึ่งส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติม ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดชั้นกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรีซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่ของธนาคารให้เป็นหนี้ด้อยคุณภาพเมื่อเร็วๆ นี้ และส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ธนาคารได้ตั้งสำรองไว้แล้วบางส่วนในอดีตสำหรับกลุ่มลูกหนี้สหวิริยาสตีล อินดัสตรี และแม้ว่าการตั้งสำรองเพิ่มเติมในครั้งนี้จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2558 ของธนาคารลดต่ำลงกว่าการคาดการณ์ของทริส เรทติ้ง แต่การลดลงของกำไรจะเกิดขึ้นเฉพาะในปีนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ เงินกองทุนของธนาคารยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อีกทั้งธนาคารยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รวมทั้งคุณภาพสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแม้ว่าจะเสื่อมถอยลงไปบ้าง
ทั้งนี้ ธนาคารทิสโก้ยังคงมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีแม้ว่าจะเสื่อมถอยลงไปบ้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 2.6% ณ เดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 3.0% นอกจากนี้ เงินกองทุนของธนาคารยังแข็งแกร่งขึ้นจากการเพิ่มทุนในช่วงปี 2556-2557 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง และเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน2558 เท่ากับ 13.13% และ 17.54% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การตั้งสำรองเพิ่มเติมสำหรับลูกหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่กลุ่มนี้ไม่น่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะเงินกองทุนของธนาคาร โดยเงินกองทุนตามกฎหมายจะยังคงเพียงพอต่อการขยายสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน ทริส เรทติ้งให้อันดับเครดิตแก่ธนาคารทิสโก้ที่ระดับ “A” สำหรับอันดับเครดิตขององค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และอันดับเครดิตที่ระดับ “A-” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ และ อันดับเครดิตที่ระดับ “BBB+” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”