ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,250-1,500 จุด จนถึงกลางปีหน้า แนะจับตา 2 ปัจจัยเสี่ยง การเมืองในประเทศ และ เฟดขึ้นดอกเบี้ย ชี้ระดับดัชนีฯ หากมีการปรับลงไปต่ำกว่า 1,350 จุด ถือว่าน่าลงทุน
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงของตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนต้องติดตามคือ แนวโน้มการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และปัญหาการเมืองในประเทศ การกำหนดวันเลือกตั้ง การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ด้านนายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280-1,500 จุด จนถึงกลางปี 2559 โดยหากดัชนีต่ำกว่า 1,350 จุด ถือเป็นระดับที่น่าลงทุน โดยตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน เพราะต้องรอการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และนักลงทุนต่างชาติไม่ให้น้ำหนักตลาดหุ้นในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานยังปรับขึ้นไม่ได้ และหุ้นกลุ่มพลังงานก็เป็นหุ้นที่ถือว่ามีมาร์เกตแคปสูง ซึ่งเป็นแรงกดดันการปรับขึ้นของดัชนีฯ ดังนั้น นักลงทุนควรเน้นหุ้นเป็นรายตัว เช่น หุ้นที่ได้รับผลดีจากภาครัฐในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
นอกจากนี้ เนื่องจากการลงทุนหุ้นยังมีความเสี่ยงจึงมองแนวโน้มการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งทาง บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ได้ออกกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อการบริโภคของกลุ่มวัยเกษียณที่มีความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงเช่น การแพทย์ ผลิตภัณฑ์ความงาม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว วงเงินกองทุน 2,000 ล้านบาท กำหนดขาย IPO ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2558 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2558 นี้
