สปส. ตั้งเป้ากำไรร้อยละ 5.5 ต่อปี ในแผนการลงทุนระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้น - สินทรัพย์ทางเลือก - กระจายลงทุนต่างประเทศ เผยปี 58 กักเงินลงทุน 6 หมื่นล้าน รอโอกาสเหมาะสม เหตุเศรษฐกิจต่างประเทศผันผวน
นายวิน พรหมแพทย์ หัวหน้ากลุ่มงานลงทุน สำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเงินกองทุนประกันสังคมมียอดสะสมจำนวน 1,251,859 ล้านบาท โดยเกือบร้อยละ 90 เป็นเงินในส่วนของกองทุนประกันสังคมกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ ซึ่งเป็นเงินออมของผู้ประกันตนกว่า 12 ล้านคน ที่สะสมไว้เพื่อรอรับเป็นบำเหน็จและบำนาญชราภาพหลังเกษียณ ทั้งนี้ จากการศึกษาของ สปส. พบว่า หาก สปส. ยังลงทุนในสินทรัพย์ด้วยสัดส่วนปัจจุบัน จะได้ผลตอบแทนในอนาคตประมาณร้อยละ 4.5 ต่อปี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับภาระจ่ายเงินบำนาญให้ผู้ประกันตนในระยะยาว ดังนั้น จึงได้ปรับยุทธศาสตร์การลงทุนในแผนยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนฉบับที่ 3 พ.ศ. 2557 - 2561 ให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่กองทุนเป็น ร้อยละ 5.5 ต่อปี โดยจะเพิ่มการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก และกระจายการลงทุนในต่างประเทศ
นายวิน กล่าวต่อว่า แผนการเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงนั้นจะให้มีสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าร้อยละ 30 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 22 โดยเน้นปรับสัดส่วนจากตราสารหนี้ไปสู่หุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าโภคภัณฑ์ และ ทองคำ ส่วนการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศ โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเลือกลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งเรื่องของความเสี่ยงในการลงทุนก็จะเพิ่มระดับความเสี่ยงขึ้นแต่ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคมจะเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกองทุนกรณีชราภาพ โดยคาดว่าช่วงสิ้นปี 2561 จะมีเงินลงทุนประมาณ 2 ล้านล้านบาท
นายวิน กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการลงทุนในปี 2558 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนระยะยาว 5 ปี โดยแผนในปี 2558 จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีความยั่งยืนในระยะยาวโดยคาดว่าจะได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 3 - 4 รวมทั้งมีการลงทุนในหุ้นไทยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 12 ซึ่งปัจจุบันลงทุนอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 10 นอกจากนี้ จะเพิ่มการลงทุนทางเลือกโดยลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลร้อยละ 6 - 8 ต่อปี ส่วนการลงทุนในต่างประเทศที่ สปส. เตรียมวงเงินไว้ 6 หมื่นล้านบาท อาจจะชะลอออกไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ยังมีความผันผวนอยู่มาก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวิน พรหมแพทย์ หัวหน้ากลุ่มงานลงทุน สำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเงินกองทุนประกันสังคมมียอดสะสมจำนวน 1,251,859 ล้านบาท โดยเกือบร้อยละ 90 เป็นเงินในส่วนของกองทุนประกันสังคมกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ ซึ่งเป็นเงินออมของผู้ประกันตนกว่า 12 ล้านคน ที่สะสมไว้เพื่อรอรับเป็นบำเหน็จและบำนาญชราภาพหลังเกษียณ ทั้งนี้ จากการศึกษาของ สปส. พบว่า หาก สปส. ยังลงทุนในสินทรัพย์ด้วยสัดส่วนปัจจุบัน จะได้ผลตอบแทนในอนาคตประมาณร้อยละ 4.5 ต่อปี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับภาระจ่ายเงินบำนาญให้ผู้ประกันตนในระยะยาว ดังนั้น จึงได้ปรับยุทธศาสตร์การลงทุนในแผนยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนฉบับที่ 3 พ.ศ. 2557 - 2561 ให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่กองทุนเป็น ร้อยละ 5.5 ต่อปี โดยจะเพิ่มการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก และกระจายการลงทุนในต่างประเทศ
นายวิน กล่าวต่อว่า แผนการเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงนั้นจะให้มีสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าร้อยละ 30 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 22 โดยเน้นปรับสัดส่วนจากตราสารหนี้ไปสู่หุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าโภคภัณฑ์ และ ทองคำ ส่วนการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศ โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเลือกลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งเรื่องของความเสี่ยงในการลงทุนก็จะเพิ่มระดับความเสี่ยงขึ้นแต่ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคมจะเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกองทุนกรณีชราภาพ โดยคาดว่าช่วงสิ้นปี 2561 จะมีเงินลงทุนประมาณ 2 ล้านล้านบาท
นายวิน กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการลงทุนในปี 2558 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนระยะยาว 5 ปี โดยแผนในปี 2558 จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีความยั่งยืนในระยะยาวโดยคาดว่าจะได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 3 - 4 รวมทั้งมีการลงทุนในหุ้นไทยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 12 ซึ่งปัจจุบันลงทุนอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 10 นอกจากนี้ จะเพิ่มการลงทุนทางเลือกโดยลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลร้อยละ 6 - 8 ต่อปี ส่วนการลงทุนในต่างประเทศที่ สปส. เตรียมวงเงินไว้ 6 หมื่นล้านบาท อาจจะชะลอออกไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ยังมีความผันผวนอยู่มาก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
