“อนาวิล จิรธรรมศิริ” ผู้บริหาร CHOW เผยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ เพิ่มอีก 3.5 เมกะวัตต์ (DC) จาก 3 โครงการ ส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จ่ายไฟแล้วรวม 12 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรก จำนวน 18 เมกะวัตต์ มั่นใจที่เหลืออีก 6 เมกะวัตต์ พร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้ ส่วนเฟส 2 เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 15 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท รับรู้รายได้ต่อเนื่องในปีถัดไป
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงานในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เฟสแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ ว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าของบริษัทได้เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่น เพิ่มอีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3.5 เมกะวัตต์ (DC) ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในเดือนเดียวกันนี้เป็นต้นไป
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ล่าสุด คือ โครงการโรงไฟฟ้าโนงะตะ (Nogata) กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (DC) โครงการโรงไฟฟ้าโคเรียล (Goryo) กำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ (DC) และโครงการโรงไฟฟ้าชิบูชิ (Shibushi) กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (DC) โดยทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ที่จังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima) ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ CHOW ขายไฟในเชิงพาณิชย์แล้ว 3 โครงการ คือ โครงการอิบารากิ ขนาดกำลังการผลิต 1.20 เมกะวัตต์ (DC) โครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) และโครงการโออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) ทำให้ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 12 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรก จำนวน 18 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 6 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการรอเชื่อมต่อสายส่งอีก 1 โครงการ คือ โครงการไซโตะ จังหวัดมิยะซะกิ ขนาด 2.388 เมกะวัตต์ และที่เหลือกำลังพัฒนา และก่อสร้าง ซึ่งจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558 โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 18 เมกะวัตต์ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้า ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า หลังจากนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นยังต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทฯ มีศักยภาพในการขยายธุรกิจเป็นอย่างดี โดยจะดำเนิธุรกิจคู่ขนานกันไปทั้ง 3 รูปแบบ ทั้งโครงการที่ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย ซึ่งเฟสแรกอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 6 เมกะวัตต์ และเฟสที่ 2 เตรียมลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 15 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 1,215 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2559 เป็นต้นไป โครงการที่พัฒนาเพื่อขายให้แก่พันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 87 เมกะวัตต์ และโครงการที่ลงทุนร่วมกันพันธมิตรปัจจุบันมี จำนวน 40 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป CHOW จะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด อย่างเต็มตัว