“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” เผยพร้อม COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นโครงการ 2 ขนาด 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) 5 มิถุนายนนี้ หลังโครงการแรกขนาด 4.019 เมกะวัตต์ จ่ายไฟแล้วเมื่อปลายปี 57 ที่เหลือ 10.7206 เมกะวัตต์ “อนาวิล จิรธรรมศิริ” CEO เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ มั่นใจพร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้ ส่งสัญญาณพร้อมลุยเฟส 2 ต่อเนื่อง
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงาน ในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เฟสแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ ว่า ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โครงการ โออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่น ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในเดือนเดียวกันนี้เป็นต้นไป
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โออิตะ ถือเป็นโครงการที่ 2 ของ CHOW ที่เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้าโครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ที่เกียวโตประเทศญี่ปุ่น ได้จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 7.2794 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรก จำนวน 18 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 10.7206 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา และก่อสร้าง และจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558 ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 18 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พัฒนาโครงการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็น และเกี่ยวข้องต่อการจำหน่ายไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 18 เมกะวัตต์ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่การไฟฟ้าฯ ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในตลาดญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวหลังจากพบว่า ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมา ได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ คือ ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ดังกล่าว ส่วนรูปแบบที่ 2 พัฒนาโครงการเพื่อขายให้แก่พันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 87 เมกะวัตต์ และลงทุนร่วมกันพันธมิตร จำนวน 40 เมกะวัตต์ และในปีนี้มีนโยบายจะขยายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนด้วยตัวเองในเฟส 2 หลังจากที่เฟสแรกเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟแล้ว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด กล่าวอีกว่า การมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ก็เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการบริษัทฯ CHOW ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้ และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป CHOW จะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด อย่างเต็มตัว