xs
xsm
sm
md
lg

เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เผย Solar Farm ในญี่ปุ่นจ่ายไฟเพิ่มอีก 1.2 MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เผยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นโครงการ 3 อิบารากิ ขนาด 1.20 เมกะวัตต์ (DC) เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วเมื่อ 10 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นจ่ายไฟแล้วรวม 8.4794 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรก จำนวน 18 เมกะวัตต์ “อนาวิล จิรธรรมศิริ” CEO เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ มั่นใจ พร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้ พร้อมลุยเฟส 2 ต่อเนื่อง หลังบอร์ดอนุมัติลงทุนเพิ่มอีก 15 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงานในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เฟสแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ ว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โครงการอิบารากิ (Ibaraki) ขนาดกำลังการผลิต 1.20 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น ได้เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในเดือนเดียวกันนี้เป็นต้นไป

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิบารากิ ถือเป็นโครงการที่สามของ CHOW ที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้าโครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ที่เกียวโต และโครงการโออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 8.4794 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรก จำนวน 18 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และรอการเชื่อมต่อสายส่ง 1 โครงการ คือ โครงการไซโตะ จังหวัดมิยะซะกิ ขนาด 2.388 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 7.1326 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา และก่อสร้าง และจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558 ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น เฟสแรกขนาด 18 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พัฒนาโครงการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็น และเกี่ยวข้องต่อการจำหน่ายไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 18 เมกะวัตต์ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่การไฟฟ้าฯ ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี

นายอนาวิล กล่าวอีกว่า หลังจากนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นคู่ขนานกันไปทั้งเฟสแรกที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 7.1326 เมกะวัตต์ และเฟสที่ 2 ที่คณะกรรมการของบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติให้ลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 15 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 1,215 ล้านบาท เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นยังต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมา ได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ คือ ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ดังกล่าว ส่วนรูปแบบที่สอง พัฒนาโครงการเพื่อขายให้แก่พันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 87 เมกะวัตต์ และลงทุนร่วมกันพันธมิตร จำนวน 40 เมกะวัตต์ และในปีนี้มีนโยบายจะขยายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในเฟส 2 หลังจากที่เฟสแรกเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟแล้ว

ทั้งนี้ การมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ก็เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการบริษัทฯ CHOW ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้ และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป CHOW จะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด อย่างเต็มตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น