ปลัดกระทรวงการคลังยังมั่นใจจีดีพีโตได้ร้อยละ 3 พร้อมรอผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอัดฉีดเงินสู่ผู้มีรายได้น้อย หนุนจีดีพีโตเกินกว่าคาด พร้อมยืนยันฐานะทางการคลังของไทยยังมั่นคง เพียงพอรับมือกระแสเงินทุนไหลเข้าออกของต่างชาติ หากเกิดภาวะความผันผวนในตลาดเงินโลก
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในงานมหกรรมวิเคราะห์การลงทุนว่า ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมแล้วในการปล่อยสินเชื่อกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้ผู้มีรายได้น้อย วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับมาตรกากรสินเชื่อเอสเอ็มอี และมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ รวมวงเงิน 136,000 ล้านบาท ทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้จะรักษาระดับโตได้ร้อยละ 3 โดยเดือนธันวาคมสำนักงานเศรษฐกิจและการคลัง (สศค.) จะปรับจีดีพีใหม่อีกครั้ง โดยเชื่อว่าจีดีพีน่าจะสูงกว่าร้อยละ 3 เพราะได้ผลบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าสำนักวิจัยเอกชนต่างๆ จะปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.5-2.7 ก็ตาม
ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) วันที่ 16-17 กันยายน 2558 นี้ คาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งแม้ว่าเฟดมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ แต่ฐานะทางการเงินของไทยยังมั่นคง โดยมีเงินคงคลัง ณ สิ้นกรกฎาคม 2558 ทั้งสิ้น 202,000 ล้านบาท และเงินทุนในระบบอีก 700,000-800,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับกระแสการไหลออกของเงินทุนต่างชาติได้ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น จึงไม่น่ากังวัล
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาการลดภาษีธุรกิจเฉพาะค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมการจดจำนองอย่างถาวร โดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะลดอัตราเท่าใด เพื่อหวังกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงการคลังยังต้องศึกษาข้อดีข้อเสียว่า หากลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัวได้หรือไม่ เปรียบเทียบกับรัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมดังกล่าว โดยจะมีข้อสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีภายในปีนี้อย่างแน่นอน