DAII มั่นใจรายได้ และกำไรครึ่งปีหลังเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากความสำเร็จในการปรับโครงสร้างธุรกิจ แถมโรงงานผลิตบ้านสำเร็จรูปแห่งที่ 2 นครปฐม แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หนุนกำลังการผลิตบ้านสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2 เท่าตัว อยู่ที่ 800 ลบ.ต่อปี โดยปัจจุบันตุน Backlog แล้วกว่า 200 ลบ. หรือโตสูงถึง 197% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยืนยันเป้าหมายรายได้ทั้งปีโตอีก 15% ไม่พลาดเป้า
นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “FENZER” รับสร้างบ้านสำเร็จรูปบนที่ดิน “GINZAHOME” รวมทั้งจัดจำหน่าย ติดตั้งประตู และหน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป “ATECH WINDOW” เปิดเผยภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เป็นผลจากการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ ในปี 2557 ที่ผ่านมา เพื่อรุกธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปซึ่งเป็นนวัตกรรการก่อสร้างยุคใหม่ จากเดิมบริษัทฯ รับงานก่อสร้างแบบ Conventional ซึ่งเป็นการก่อสร้างแบบเดิม ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โรงงานผลิตบ้านสำเร็จรูปกินซ่าโฮมแห่งที่ 2 ที่โรงงาน จ. นครปฐม ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องการผลิตเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตบ้านสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2 เท่าตัว เป็น 800 ล้านบาทต่อปี สามารถผลิตแบบบ้านได้ 11 แบบ จากปี 2557 มีกำลังการผลิต 250 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถรับออเดอร์จากลูกค้าเพื่อรอผลิตได้เป็นจำนวนมาก โดยงานในมือ (Backlog) ธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปของบริษัทฯ ในเดือนสิงหาคม ปี 2558 รวมอยู่ที่ประมาณ 226.73 ล้านบาท หรือเติบโตสูงถึง 197% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 76.25 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากงานดังกล่าวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ราว 70% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2559 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินหน้าขยายช่องทางการตลาดในธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปเพิ่มเติมอีก เพื่อสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจรั้วสำเร็จรูปของบริษัทฯ และธุรกิจติดตั้งประตูหน้าต่างก็มีทิศทางการเติบโตที่ดี และคาดว่าทั้งปีจะมียอดขายเติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ สนับสนุนเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2558 ของบริษัทฯ ที่วางไว้จะเติบโตอีกประมาณ 15% จากปี 2557 อยู่ที่ 357.98 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai สนับสนุนให้บริษัทฯ มีเงินทุนมากพอที่จะขยายการเติบโต และเตรียมพร้อมรับโอกาสใหม่ๆ โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตรั้วสำเร็จรูป และสำนักงานขายที่โรงงาน จ. ระยอง เพื่อลดปัญหาการขนส่ง และขยายฐานลูกค้าไปยังโซนภาคตะวันออก จากเดิมฐานลูกค้าบริษัทอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น รวมทั้งก่อสร้างโชว์รูมเดอะกินซ่า แห่งที่ 2 เพื่อเป็นอีกช่องทางการขายในธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูป ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2559 นอกจากนี้ เรายังมุ่งพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่าน www.daiiBuy.com เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มมาร์จิ้นของบริษัทฯ ให้สูงขึ้น เมื่อเทียบกว่าการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งที่ผ่านมา ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เราเป็นผู้นำในธุรกิจรั้วสำเร็จรูปที่มีความหลากหลายของสินค้ามากที่สุด ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนทิศทางธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากความคุ้มค่า สะดวก แข็งแรง ทนทานต้านแผ่นดินไหว รวดเร็วในการก่อสร้าง และในราคาที่เหมาะสม จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ และมีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเป็นของตนเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก อีกทั้งจากออเดอร์บ้านสำเร็จรูปที่เข้ามาเพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง สนับสนุนกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ หากมองเฉพาะครึ่งปีหลังเชื่อว่ารายได้ และกำไรสุทธิของ DAII จะดีกว่าครึ่งปีแรก จากงานคงค้างในมือซึ่งจะรับบรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้ ส่วนทั้งปีเป้าหมายรายได้เติบโต 15% ได้ตามที่วางไว้แน่นอน”
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558) ในงบการเงินรวม บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย และรับจ้างก่อสร้าง 204.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เมื่อเปรียบเทียบงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 191.15 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจผลิตรั้วสำเร็จรูปของกลุ่ม 95.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.48 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 87.41 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่ที่ 96.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น8.57 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 88.25 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างอะลูมิเนียมของกลุ่มบริษัทฯ ปรับลดลงอยู่ที่ 11.80 ล้านบาท ลดลง 3.69 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 15.49 ล้านบาท กำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2558 มีกำไรสุทธิ 9.31 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 13.55 ล้านบาท มีสาเหตุมาจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างแบรนด์ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มบริษัทในเครือได้มีการเปิดสาขาเซ็นทรัล ศาลายา เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้น