มีหลายครั้งที่ผมเจอคำถาม ถ้าเป็นพนักงานประจำไม่มีเวลาเฝ้าจอ เฝ้ากราฟแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเทรดแข่งกับคนอื่นเค้า สำหรับผมที่เป็นพนักงานประจำเหมือนกัน ทุกปัญหามีทางออกเสมอครับ จากข้อจำกัดด้านการทำงานทำให้ต้องวางแผน ทำการบ้านล่วงหน้า และมีเวลาดูหน้าจอเทรดได้แค่ไม่กี่ครั้ง (เปิดเช้า, ปิดเที่ยง-เปิดบ่าย, ปิดเย็น) ยุทธวิธีที่ผมใช้ในการเทรดก็คือ การเทรดแบบ Runtrend ครับ
การเทรดแบบ Runtrend ก็คือ การเข้าซื้อเมื่อเห็นว่าหุ้นเริ่มมี trend ขาขึ้น และ Let’s profits run คือ ปล่อยให้หุ้นทำกำไรไปให้สุด trend แต่ความยากของการเทรดแบบ Runtrend ก็คือ
1.หุ้นจะต้องเพิ่งเริ่มเป็น trend ขาขึ้น
2.ตลาดต้องเป็น trend ขาขึ้นด้วย และ
3.เทรดเดอร์เองจะต้องมี mindset ที่แข็งแกร่ง เมื่อเห็นหุ้นที่ตนถือมีการแกว่งขึ้นลงของราคา
ขออธิบายขยายความดังต่อไปนี้
1.หุ้นจะต้องเพิ่งเริ่มเป็น trend ขาขึ้น การเลือกหุ้นที่จะมาเทรดแบบ Daytrade นั้นว่ายากแล้ว การเลือกหุ้นที่จะมาเทรดแบบ Runtrend นั้นยากกว่า เพราะการที่เทรดเดอร์จะเลือกหุ้นที่สามารถซื้อแล้วถือเพื่อทำกำไรอย่างรวดเร็ว และรุนแรงนั้น ผมใช้ทฤษฎีของ Richard Wyckoff ผู้คิดค้นทฤษฎี วัฏจักรของหุ้น(The Cycle of Stock) เปรียบเทียบกับทฤษฎี Elliot Wave คือ จะต้องรู้ก่อนว่าราคา ณ ขณะที่เข้าซื้อนั้น เราอยู่ ณ จุดๆ ไหนของวัฏจักรหุ้น ซึ่งจะแบ่งระยะได้ดังนี้
ระยะแรก Accumulation phase คือ ระยะการสะสมหุ้น ช่วงนี้จะมีรายใหญ่ หรือ Smart Money, Big Hand, Market Maker, Insider แล้วแต่หนังสือแต่ละสำนักจะเรียก จะเริ่มทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ต ราคาจะขยับไม่มากแต่ volume float จะลดลงเรื่อยๆ (ถ้าเทียบกับ Elliot wave ก็จะเป็น wave 1)
ระยะที่สอง Mark up คือ ระยะขึ้น เมื่อรายใหญ่ดูด volume float มากพอแล้วก็จะทำการทดสอบแรงขาย และเริ่มไล่ราคา (ถ้าเทียบกับ Elliot wave ก็จะเป็น wave 2 กับ wave 3) ให้พวกเราชาวเทรดเดอร์เข้าซื้อ ณ จุดจุดนี้ ราคาจะขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรงมาก เนื่องจาก Wave 3 เป็น wave ที่มีมวลชนเข้าร่วมมากที่สุด
ระยะที่สาม Distribution phase คือ ระยะกระจายหุ้นเมื่อราคาเริ่มเข้าสู่จุดที่สูงที่สุดแล้ว volume ในตลาดเริ่มมากขึ้น แรงขายเริ่มมีเยอะกว่าแรงซื้อ รายใหญ่เริ่มปล่อยหุ้นออกจากพอร์ต ทำให้ราคาไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้(ถ้าเทียบกับ Elliot Wave ก็จะเป็น Wave 4 กับ 5)
ระยะที่สี่ Mark down คือ ระยะลง เมื่อรายใหญ่ไม่พยุง ราคาทำให้ราคาหุ้นจึงตกลงมาเรื่อยๆ รายย่อยที่เข้าซื้อด้วยความโลภ และความหวังก็จะทำให้เกิด Wave A, B, C
ไว้เรามาอ่านต่อกันว่าแล้วเราจะถือหุ้นให้สุดเทรนด์ได้อย่างไร
จักรินท์ เชื้องาม ทีม DayTrade Hunter
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง