“เจ้าสัวชาเขียว” เผยเตรียมทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท ทำโรงงานผลิตเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศอินโดนีเซีย คาดจะรับรู้รายได้จากการขายต่างประเทศเดือนกันยายนนี้แตะ 1,000 ล้านบาทแน่นอน แย้มกำไรปีนี้เกินเป้ากว่า 14% ตามที่คาดไว้ แต่น้อยกว่าปีก่อนหน้าที่ทำได้ถึง 17% เพราะแคมเปญการตลาดเครื่องดื่มแข่งขันกันสูง
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI กล่าวถึงผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2558 ว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้รายในส่วนการขาย จำนวน 3,955.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 641.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2558 คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรืออยู่ที่ 7,500 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 6,209 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของกำไรคาดว่าจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 14% แต่ต่ำกว่าปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 17% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจใจประเทศ และการแข่งขันกันสูงทางด้านโปรโมชันของเครื่องดื่มประเภทชา อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่เริ่มให้ความใส่ใจต่อเครื่องดื่มสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากผลสำรวจความพึงพอใจผู้บริโภคล่าสุดที่มีต่อสินค้าเครื่องดื่มประเภทชาเขียว พบว่า เครื่องดื่มชาเขียวแบรนด์อิชิตัน ของบริษัทยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในตลาดเครื่องดื่มประเภทชาเขียวพร้อมดื่ม โดยมีส่วนแบ่งการตลาดระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2558 เฉลี่ยอยู่ที่ 46% (ข้อมูลจากบริษัท เดอะนีลเส็นคอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด)
ขณะเดียวกัน มองว่าภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังอาจจะมีการชะลอตัวลงเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย โดยบริษัทเตรียมที่จะปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการการควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และการบริหารจัดการที่เข้มงวดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมต่ออัตราการเติบโตตามที่คาดไว้
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มในช่วงครึ่งปีหลังของอิชิตันจะมีการเติบโตตามแผนที่วางไว้ พร้อมยืนยันเป้าหมายรายได้รวม 7,500 ล้านบาทในปีนี้จะเป็นไปตามที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นการสร้างความสามารถในการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ที่ในปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มวางจำหน่ายเครื่องดื่มกลุ่มชาเขียวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม จำนวน 2 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียวรสลิ้นจี่ และชาเขียวรสน้ำผึ้งผสมมะนาว ซึ่งได้มีแผนการขยายการจำหน่ายให้ครอบคลุมตลาดให้ได้มากทึ่สุด โดยหากสามารถทำยอดขายในเดือนกันยายนนี้ถึง 1,000 ล้านบาท บริษัทก็เตรียมที่จะสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มในประเทศอินโดนีเซียทันที โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มที่ประเทศอินโดฯ นี้ ประมาณ 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เตรียมที่จะออกเครื่องดื่มรสชาติใหม่ คือ น้ำผลไม้ไม่อัดลมแบรนด์ ไบเล่ รสลิ้นจี่ หวังเอาใจผู้บริโภคต่อเนื่อง หลังจากยอดขายแบรนด์ไบเล่ จำนวน 2 รสชาติแรก ได้แก่ ไบเล่น้ำผลไม้รสส้ม และไบเล่น้ำผลไม้กลิ่นองุ่นแดง ที่ทางบริษัทฯ เปิดตัวไปแล้วในไตรมาส 2/2558 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นที่น่าพอใจ และการปรับเพิ่มขนาดเครื่องดื่มชาเขียวผสมสมุนไพรจับเลี้ยงพร้อมดื่ม เย็นเย็น ขนาดใหม่ 315 มิลลิลิตร
ขณะที่ในส่วนของกลยุทธ์การตลาดบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวแคมเปญ “อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยงแจกทองทะลุล้าน” ในเดือนกันยายนนี้ โดยจะเพิ่มโชคด้วยจำนวนรางวัลที่มากขึ้นถึง 1,110 รางวัล และพิเศษด้วยรางวัลใหญ่ทองล้าน 10 รางวัล ทองแสน 100 รางวัล และทองหมื่น 1,000 รางวัล แจกทุกวันจันทร์ เริ่มวันที่ 10 กันยายน-12 ตุลาคมนี้ เพื่อกระตุ้นตลาดเครื่องดื่มประเภทชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศ
ทั้งนี้ จากประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยจะมีกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลวันที่ 11 กันยายนนี้
