xs
xsm
sm
md
lg

จีนปัจจัยเสี่ยง ศก.โลก ดร.โกร่ง ชี้ครึ่งปีหลังผันผวน ส่วนหุ้นไทยน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อาจาร์ยโกร่ง มองหุ้นโลกดิ่งตัวเป็นไปตามภาวะ ศก.โลก ทั้งเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ และปัญหาในยุโรป โดยจะเป็นภาวะแบบนี้ต่อไปตลอดครึ่งปีหลัง ส่วนหุ้นไทยน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ระบุจีนจะเป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และตลาดหุ้นราคายังลงไม่สุด

นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากภาวะตลาดหุ้นที่ตกลงมาทั่วโลกนี้เป็นไปตามวัฏจักรของเศรษฐกิจในระบบทุนนิยม ซึ่งตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นมีความกังวลต่อข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาตั้งแต่ต้นปีตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และจากการที่ราคาน้ำมันลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างมาก เพราะเป็นประเทศที่ส่งออกพลังงาน รวมถึงจากการที่ยุโรปประสบวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากหลายประเทศมีหนี้จำนวนมากอันเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากันแต่ใช้สกุลเงินเดียวกัน ดังนั้น ปัญหาของยุโรปจึงยังต้องใช้เวลานานกว่าจะแก้ปัญหาได้

ขณะที่ภูมิภาคเอเชียนั้น แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นแต่กลับไม่ได้นำเข้าสินค้าจากเอเชีย โดยนำเข้าสินค้าจากละตินอเมริกามากกว่า ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังคาดการณ์ได้ยาก ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงมายังไม่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ เพราะญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจอยู่ในหลายประเทศเป็นหลัก ดังนั้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะลดดอกเบี้ยอีกคงทำไม่ได้ ทำได้โดยอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนเศรษฐกิจจีนนั้น รัฐบาลจีนมีมาตรการทางเศรษฐกิจหลายอย่างในการแก้ปัญหา แต่เชื่อว่าหุ้นจีนน่าจะชะลอตัวลงอีกไปตามกลไกตลาดโลกแต่ยังไม่ลงไปถึงจุดต่ำสุด ขณะเดียวกัน มองว่าประเทศจีนเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของโลกได้ เพราะเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ค่าแรงในประเทศจีนที่เริ่มแพงขึ้นทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง

ด้านเศรษฐกิจไทย การส่งออกที่ติดลบ และการผลิตที่ลดลงต่ำลง แต่ยังไม่รุนแรงเท่าวิกฤตปี 2540 เพราะยังมีเงินทุนสำรองที่สูง แต่ค่าเงินบาทควรจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการส่งออกที่ติดลบ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมาก่อนตลาดอื่น และมองว่าน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนมีการลงทุนในเรื่องเครื่องจักรการ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ควรออกไปลงทุนในประเทศเพื่อบ้านอย่างพม่า เวียดนาม ขยายฐานการผลิตเข้าไปในประเทศเหล่านี้เพราะมีแรงงานที่ถูก

“โดยรวมแล้วประเทศในยุโรปยังไม่ดีขึ้น สหรัฐฯ น่าจะดีขึ้นต่อไป ขณะที่ญี่ปุ่นยังไม่ชัดเจน ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังนี้สถานการณ์น่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปจนถึงปีหน้าที่จะเริ่มมีการลงทุนใหม่อีกครั้ง”

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกอง (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เป็นต้นมาทุกประเทศมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศตัวเอง ดังนั้น การลงทุนในหุ้นจึงยังคงเน้นไปที่กลุ่มการลงทุนจากภาครัฐเป็นหลัก ขณะเดียวกัน มองว่าเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อเรื่องการท่องเที่ยวในช่วงระยะสั้นเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น