บล.กสิกรฯ มองหุ้นปรับฐานเพื่อรอปรับขึ้นรอบใหม่ คาดว่าในช่วงต้นไตรมาส 4 แรงซื้อต่างชาติจะเริ่มไหลกลับเข้ามา เพราะความชัดเจนในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และความคาดหวังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แนะจับตาตัวเลข ศก.สหรัฐฯ และยูโรโซน พร้อมให้กรอบ 1,400-1,460 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด ประเมินแนวโน้มหุ้นไทย วันที่ 10-14 ส.ค.2558 โดยมองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,440 และ 1,460 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,420 และ 1,400 จุด สำหรับประเด็นติดตามในประเทศ ได้แก่ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่อาจมีการกล่าวถึงมุมมองการดำเนินนโยบายในอนาคต
ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานออกมา เช่น ยอดค้าปลีก และความเชื่อมั่นผู้บริโภค นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงต้องติดตามการรายงานข้อมูลจีดีพีของยูโรโซน รวมทั้งดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับฐานลงจากความกังวลต่อทิศทางผลประกอบการ แต่ในภาพใหญ่กลับมองว่าการปรับฐานนี้เป็นการปรับฐานในช่วงตลาดขาขึ้นรอบใหม่
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงต้นไตรมาส 4 แรงซื้อต่างชาติจะเริ่มไหลกลับเข้ามา เพราะความชัดเจนในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และความคาดหวังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมทั้งจะเริ่มเห็นการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจน และคาดว่าดัชนีปีนี้จะกลับขึ้นไปที่ 1,500-1,550 จุด และในกลางปีหน้าจะขึ้นไปแตะ 1,600 จุด
“ต้องบอกว่าแม้เรามองตลาดหุ้นไทยจะปรับฐาน แต่เรายังมองเป็นปรับฐานในรอบขาขึ้นรอบใหม่ โดยหากลงมาอยู่ที่ระดับ 1,370 จุด ถือว่ามีความเหมาะสมมากต่อภาวะตลาดฯ และเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะเทียบ P/E 12 เท่าของปี 2559 และ Earning บจ.ที่ปรับลดลง 2-3%”
แต่หากเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนหลังเฟดมีความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ไม่น่าจะเป็นปัจจัยต้องกังวลเพราะสภาพคล่องในตลาดฯ จะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
สำหรับหุ้นเด่น ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวที่ไตรมาส 4 จะเป็นไฮซีซัน และคาดจะต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2559 ด้วยหุ้นแนะนำ คือ AOT CENTEL MINT ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐที่คาดทยอยประกาศงานประมูลออกมาต่อเนื่อง มีหุ้นแนะนำ คือ SCC ITD CK STEC UNIQ SEAFCO PYLON