ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) แย้มแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเติบโตแข็งแกร่ง แม้ไม่นับรวมงานจากกลุ่มบริหารโครงการ และงานบริการ เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากปริมาณงานในมือมูลค่ามากกว่า 870 ล้านบาท มั่นใจแนวโน้มการเติบโตของรายได้ในปีนี้ขยายไม่ต่ำกว่า 10-15% ตามเป้า เผยอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญารับงานโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV ของ ขสมก. มูลค่า 1,735 ล้านบาท และสัญญาซ่อมบำรุง 10 ปีอีก มูลค่า 2,200 ล้านบาท คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ แย้มมีแผนปรับเป้ารายได้เพิ่มหากลงนามสัญญากับทาง ขสมก. เรียบร้อยแล้ว
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน หรือ CHO กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2558 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเป็นช่วงไฮซีซันของการทยอยส่งมอบงานจากปริมาณงานในมือที่มีอยู่ทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศอยู่ประมาณไม่น้อยกว่า 870 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2558 เป็นต้นไป
“ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 เป็นไฮซีซัน เนื่องจากเป็นช่วงที่เราทยอยส่งมอบปริมาณงานในมือที่ได้รับมาในช่วงต้นปี 58 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 870 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งได้เป็นงานภายในประเทศประมาณ 70% และงานจากต่างประเทศประมาณ 30% จากปริมาณงานในมือทั้งหมด และนอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยความเชี่ยวชาญพิเศษ และ Know-How ที่เรามีอยู่จะส่งผลทำให้บริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่แผนการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2558 บริษัทเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ส่วนงานภายในประเทศบริษัทฯ ได้เปิดศูนย์ซ่อมบริการรถใหญ่ที่ตั้งอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าของลูกค้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ภายในไตรมาส 3 นี้ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อน โดยมาจากงานกลุ่มผลิตภัณฑ์มาตรฐาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกแบบพิเศษ ซึ่งมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอยู่แล้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาเพื่อรับงานจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน มูลค่าประมาณ 1,735 ล้านบาท ระยะเวลาส่งมอบภายใน 90 วัน และสัญญาซ่อมบำรุง 10 ปี วงเงิน 2,200 ล้านบาท จากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งหากบริษัทสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในไตรมาส 3/2558 จะส่งผลทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโครงการจัดซื้อตัวรถมูลค่า 1,735 ล้านบาท ภายในปีนี้ทั้งหมด และทยอยรับรู้รายได้ตามสัญญาซ่อมบำรุงอีก 10 ปี ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะแจ้งปรับเป้ารายได้เพิ่มขึ้นหากได้ลงนามในสัญญากับทาง ขสมก. เรียบร้อยแล้ว