COM7 ปลื้มยอดจองไอพีโอเต็ม 300 ล้านหุ้น เผยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก คาดว่ามาจากความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก สินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ผู้บริหารยันไม่ขายหุ้นนอกไซเลนต์ฯ
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) และ บล.เอเซีย พลัส กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.และ 3-4 ส.ค.58 ราคาเสนอขายที่ 3.35 บาท/หุ้น ปรากฏว่า หุ้นของ COM7 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก คาดว่ามาจากความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก สินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ประกอบกับ การกำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.35 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.8 เท่า จากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 เม.ย.57-31 มี.ค.58) มีส่วนลดให้กับนักลงทุนผู้จองซื้อประมาณ 39% จาก P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ จึงถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนในระยะยาว
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร COM7 กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จำนวน 1,005 ล้านบาท ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายธุรกิจจำนวน 300 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้จำนวน 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจจำนวน 205 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้การประกอบการธุรกิจของ COM7 มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
และในด้านการจ่ายเงินปันผลบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว
ทั้งนี้ COM7 เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven
“นอกจากหุ้นของผู้บริหารร้อยละ 55 ที่ติด silent period กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามหลักเกณฑ์ปกติแล้ว หุ้นที่ไม่ติด silent ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของผมนายสุระ คณิตทวีกุล ก็ติดเงื่อนไขกับธนาคารผู้ให้สินเชื่อกับบริษัทที่กำหนดให้ผมนายสุระต้องคง การถือหุ้นในบริษัทครบตามจำนวนที่ถือมาก่อนเข้าตลาดฯ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริหารจะยังคงถือหุ้นในบริษัทครบเต็มจำนวน” นายสุระ กล่าว
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) และ บล.เอเซีย พลัส กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.และ 3-4 ส.ค.58 ราคาเสนอขายที่ 3.35 บาท/หุ้น ปรากฏว่า หุ้นของ COM7 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก คาดว่ามาจากความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก สินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ประกอบกับ การกำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.35 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.8 เท่า จากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 เม.ย.57-31 มี.ค.58) มีส่วนลดให้กับนักลงทุนผู้จองซื้อประมาณ 39% จาก P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ จึงถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนในระยะยาว
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร COM7 กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จำนวน 1,005 ล้านบาท ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายธุรกิจจำนวน 300 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้จำนวน 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจจำนวน 205 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้การประกอบการธุรกิจของ COM7 มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
และในด้านการจ่ายเงินปันผลบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว
ทั้งนี้ COM7 เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven
“นอกจากหุ้นของผู้บริหารร้อยละ 55 ที่ติด silent period กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามหลักเกณฑ์ปกติแล้ว หุ้นที่ไม่ติด silent ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของผมนายสุระ คณิตทวีกุล ก็ติดเงื่อนไขกับธนาคารผู้ให้สินเชื่อกับบริษัทที่กำหนดให้ผมนายสุระต้องคง การถือหุ้นในบริษัทครบตามจำนวนที่ถือมาก่อนเข้าตลาดฯ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริหารจะยังคงถือหุ้นในบริษัทครบเต็มจำนวน” นายสุระ กล่าว
