“ตลาดฟิวเจอร์สคือการพนัน” หรือบางทีก็คิดรวมไปถึงตลาดหุ้นด้วยว่า “ตลาดหุ้นคือการพนันที่ถูกกฎหมาย” ความคิดแบบนี้บ่งบอกถึงคนที่หวังจะเสี่ยงดวงโดยการนำเงินมาวัดดวงกับตลาดหุ้น และตลาดฟิวเจอร์สแบบไม่มีความรู้ แล้วพอขาดทุนออกไปก็มามองว่าตลาดหุ้น และฟิวเจอร์สคือ การพนัน แน่นอนครับ มันคือการพนันอย่างถูกกฎหมายจริงๆ แต่เฉพาะกับคนที่ไม่มีความรู้ หรือคนที่มีแต่ความเขลาแล้วกระโดดเข้ามาหวังรวยออกไปง่ายๆ จากการสอบถามวิธีการลงทุนของกลุ่มคนที่มีความคิดแบบนี้มักจะเหมือนๆ กันก็คือ ซื้อขายตามแรงเชียร์ของเพื่อนๆ ชอบข่าวลือ เวลาฟังคำแนะนำจากนักวิเคราะห์จะไม่ฟังลึกถึงเหตุผล จะฟังแค่ว่าตอนนี้ซื้อ หรือขายฟิวเจอร์สดี หรือซื้อหุ้นตัวไหนดี และกระโดดเข้าไปซื้อขายทันทีโดยไม่ได้ดูเงื่อนไขของคำแนะนำเหล่านั้นเลยว่าเป็นการลงทุนระยะยาวแค่ไหน หรือมีกลยุทธ์ตัดขาดทุนแบบไหน นักลงทุนที่มีความคิดผิดๆ เหล่านั้นมักจะหวังแต่ว่าซื้อแล้วต้องได้กำไรเสมอ ไม่เคยเผื่อทางไว้ว่าเวลาผิดทางจะทำอย่างไร
กลุ่มคนเหล่านี้เวลาได้กำไรในครั้งแรกๆ ก็จะอยู่ได้ไม่นานอยู่ดี เพราะครั้งแรกๆ ลงทุนแบบไม่รู้อะไรแล้วได้กำไร ครั้งต่อๆ มาคนเหล่านี้ก็จะยังลงทุนแบบไม่รู้อะไรเหมือนเดิม ซึ่งโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป ยิ่งคนที่ลงทุนแบบเสี่ยงโชคด้วยแล้วโอกาสชนะกับแพ้นั้นเท่าๆ กันเหมือนโยนหัวก้อยกันเลยทีเดียว แตกต่างกับคนที่ศึกษาหาความรู้ที่เขามักจะลงทุนเฉพาะเมื่อเขามีโอกาสชนะมากกว่าแพ้เท่านั้น ผมขอยกตัวอย่างการพนันชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Black Jack หรือบ้านเราเรียกไพ่นี้ว่า ยี่สิบเอ็ด ซึ่งเป็นการพนันที่นิยมในบ่อนถูกกฎหมายทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นที่ ลาสเวกัสอเมริกา หรือที่มาเก๊า นักลงทุนที่ตั้งใจเข้าบ่อนเหล่านี้หวังเสี่ยงโชคแล้วรวยกลับมา ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะขาดทุนในระยะยาว เจ้าของบ่อน หรือกาสิโนเขาคงไม่ทำธุรกิจนี้จนร่ำรวยกันหรอกครับหากเขาไม่เห็นว่าโอกาสชนะมากกว่าแพ้ในระยะยาว บ่อนเหล่านี้เปิดรับนักเสี่ยงดวงรายเล็กรายใหญ่เสมอ แต่บ่อนกาสิโนพวกนี้เขาจะไม่ต้อนรับกลุ่มคนอยู่พวกหนึ่งคือ พวก “จำไพ่ หรือ พวกนับไพ่” หรือพวกเอาวิธีความน่าจะเป็นกับสถิติมาเอาชนะบ่อน กลุ่มคนที่ “จำไพ่” เขาก็จะเลือกแทงไพ่เฉพาะในตาที่เขามีความน่าจะเป็นที่จะชนะมากกว่าแพ้ ทำแบบนี้ในระยะยาว กลุ่มคนที่ “จำไพ่” นี่แหละที่จะชนะเจ้าของบ่อนได้ บรรดาเจ้าของบ่อนต่างๆ เหล่านี้จึงจำเป็นจะต้องคอยจับตาไม่ให้กลุ่มคนที่ใช้วีการ “จำไพ่” เข้ามาในบ่อน ส่วนใหญ่จะออกกฎมาเอาผิดต่อพวก “จำไพ่” เลยเพราะการ “จำไพ่” ไม่ใช่การเสี่ยงดวง บ่อนจึงไม่ต้อนรับเพราะกลัวแพ้
การลงทุน และเก็งกำไรในตลาดฟิวเจอร์ส ตลาดหุ้น และตลาดทองคำก็เช่นกัน หากนักลงทุนศึกษาหาวิธีสร้างโอกาสที่จะชนะให้ได้มากกว่าแพ้ได้ แล้วปฏิบัติตามได้อย่างต่อเนื่อง การลงทุนจะมีกำไรบ้างขาดทุนบ้างแต่ในระยะยาวก็จะประสบความสำเร็จมากกว่าล้มเหลวแน่นอน ส่วนโอกาสที่ชนะมากกว่าแพ้ควรจะเป็น 60 ต่อ 40 หรือ 90 ต่อ 10 หรือจะเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่กลยุทธ์ และระดับรับความเสี่ยงของแต่ละคน นอกจากนี้ การลงทุนในแต่ละครั้งก็ควรจะคำนึงถึงผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน พูดตรงๆ คือ ก่อนลงทุนแต่ละครั้งควรดูว่าโอกาสที่จะกำไรเท่ากับกี่บาทแล้วถ้าผิดทางจะขาดทุนกี่บาท ซึ่งควบคู่กับความน่าจะเป็นในการแพ้ชนะด้วย รวมถึงวิธีการบริหารหน้าตักด้วยว่าเหมาะสมต่ออัตราส่วนนั้นๆหรือเปล่า สำหรับวิธีสร้างโอกาสชนะให้มากกว่าแพ้นั้นมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับวิธีไหนใครถนัด วิธีไหนเหมาะสมต่อใครก็ต้องมานั่งพิจารณาเลือกกันอีกที สำหรับความคิดที่ว่า “ตลาดฟิวเจอร์สคือการพนัน” รวมถึงตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สด้วยนั้น นักลงทุนที่ไหนยังมีความคิดแบบนี้ กรุณาอย่าเอาไปพูดถ่ายทอดให้คนอื่นฟังเลยนะครับ เพราะมันแสดงถึงการไม่มีความรู้ในตลาดฟิวเจอร์สของคุณเอาซะเลย นักลงทุนที่ดีต้องจำไว้ว่า การลงทุนไม่ใช่การเสี่ยงดวง
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก