ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นร้อนฉ่าที่ทำให้ “ของขึ้น” ทันที ก็คือ ข่าวที่มีกลุ่มสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่ารักชาติ เสนอประเด็นเรื่องจะให้มีการยกบ่อนกาสิโนให้ถูกกฎหมาย ปรากฏว่า พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงตนกระโดดงับประเด็นทันทีว่าเห็นด้วย และจะพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายให้ได้ในบ้านเรา
และนี่คือวาทะของคนที่มีตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. กล่าว
“มันหนีไม่พ้นอยู่แล้ว เชื่อเถิดว่าการพนันอยู่ในสายเลือดของคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะบริหารจัดการอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในเมื่อคนมันจะเล่น ก็จัดพื้นที่ให้เล่นแบบถูกกฎหมายไปเลย”
“ผมไปศึกษาดูงานมาทั่วโลก และได้เข้าบ่อนหลายแห่ง ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จนมีแนวคิดให้เปิดบ่อนเสรีในเมืองไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ เพราะที่ผ่านมา คนไทยนำเงินไปเล่นพนันนอกประเทศจนเม็ดเงินหลุดออกไปมหาศาล เช่น กัมพูชา และ มาเก๊า ทั้งที่ควรนำเงินรายได้เหล่านั้นมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการศึกษาในประเทศได้ด้วย นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีปัจจัยเกื้อหนุนที่ได้เปรียบประเทศอื่นๆ ทั้งเรื่องอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง รวมทั้งแหล่งชอปปิ้งต่างๆ จึงควรสร้างได้แล้ว ผมแนะนำให้สร้างที่ จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ อุบลราชธานี และ เกาะล้าน ต้องกำหนดด้วยว่าห้ามคนในพื้นที่เล่นการพนันในเขตพื้นที่ของตัวเอง ต้องข้ามพื้นที่ไปเล่นต่างจังหวัด เพื่อเป็นการคัดกรองผู้มีรายได้สูงให้เข้าบ่อนนำรายได้เข้ารัฐ อย่ามัวแต่ห่วงเรื่องศักดิ์ศรีว่าเราเป็นเมืองพุทธ ให้คิดถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นหลัก เพราะเงินไปต่างประเทศหมดแล้ว”
ไม่เพียงแต่ ผบ.ตร. คนปัจจุบันเท่านั้น อดีต ผบ.ตร. คนก่อนหน้า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่วันนี้นั่งตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็ออกมากล่าวในทำนองเดียวกัน
“เห็นด้วยกับแนวคิดที่ประเทศไทยจะต้องมีการจัดสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แบบครบวงจร หรือ กาสิโน ในฐานะที่เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นอยู่ว่าความจริงมีการลักลอบเล่นการพนัน และต้องยอมรับความจริงว่าคนไทยมีนิสัยชอบเล่นการพนัน โดยพบว่าในแต่ละปีมีการนำเงินไปเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีการเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเห็นว่าการจัดสร้างควรจะต้องมีการกำหนดระบบระเบียบที่ชัดเจนในการควบคุมผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการให้ชัดเจน เช่น ผู้ที่จะมาใช้บริการต้องมีฐานะทางการเงิน และการลงทะเบียนที่ชัดเจน สามารถที่จะเก็บข้อมูลและตรวจสอบประวัติของบุคคลนั้นๆ ได้ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านก็ต้องรับฟังความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายด้วย”
คนหนึ่งก็ผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือกฎหมายอยู่ในมือ อีกคนก็ตำรวจ ผู้บริหารกระทรวงที่ชื่อก็บอกว่าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
อึ้งสิคะ..วิธีคิดของคนที่ควรจัดการกับคนที่เล่นการพนัน กับคนที่ควรสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรมนุษย์ในบ้านเรา กลับเห็นด้วยกับการเปิดบ่อนแบบถูกกฎหมาย
เกิดอะไรขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้
มาดูรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
“คนไปเล่นการพนันไม่ได้ผิดศีล 5 ศีล 5 ไม่ได้ห้ามเรื่องการพนัน ยกตัวอย่างคนไปชอปปิ้ง คนมีเงินเขาก็ไปพักผ่อน ไปดูของซื้อของ แต่ส่วนใหญ่ 80% ไม่ได้ต้องการซื้อของ เขาไประบายและไปหาความสุข เพราะฉะนั้น การเข้าไปเล่นการพนันเพื่อไประบาย ไปหาความสุข คนจนๆ ก็ห้ามอย่าให้เขาไปเล่น ตรงนี้มันทำกันได้ เราปล่อยให้คนของเราไปจ่ายเงินที่อื่น เสียมากกว่าได้ ก็ไปปล่อยที่อื่น คนอื่นก็เอาเงินของเราไป แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มาเปิดบ่อนกันทั่วทุกหนทุกแห่ง เดี๋ยวก็จะมีข่าวรับโน่นรับนี่ที่บ่อนกันอีก ผมคิดของผมอย่างนี้”
นี่ถึงขนาดเอา “ศีล 5” มาอ้างกันเลย!
ดิฉันพยายามรวบรวมประเด็นของคนที่อยากให้เปิดบ่อนกาสิโนแบบสุดลิ่มทิ่มประตูได้หลักๆ ดังนี้
“ต้องการให้เงินไหลเวียนอยู่ในประเทศ”
“คนไทยเล่นการพนันกันอยู่แล้ว”
“จะได้ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน เพราะจะได้มีรายได้เพิ่ม”
“เกิดการจ้างงาน” ฯลฯ
แต่ไม่มีใครพูดถึงประเด็นทางสังคมเลยว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าง
และ..ก่อนจะตัดสินใจเปิด อยากฝากถึงผู้มีอำนาจรัฐในมือขณะนี้ด้วยข้อคิดสะกิดเตือน ช่วยตอบคำถามเหล่านี้ก่อนดีกว่าไหม
หนึ่ง เปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เป็นประเด็นเร่งด่วนสำหรับการปฏิรูปประเทศขณะนี้หรือ
สอง ผลประโยชน์มหาศาลส่วนใหญ่ตกอยู่ที่ใคร ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเมื่อมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นในบ้านเราเมื่อไหร่ ต้องมีกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์มหาศาล อยู่ที่ว่ารูปแบบไหน แล้วสังคมยังคงรวยกระจุก จนกระจายใช่ไหม
สาม บ่อนเถื่อนจะหายไปไหม หรือเป็นการทำให้คนเข้าถึงการพนันได้มากขึ้น
สี่ นักพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวันใช่ไหม เพราะด้วยสภาพความเป็นจริงที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ในกับดักชอบเสี่ยงโชคมากกว่าทำมาหากิน
ห้า สังคมไทยพร้อมแล้วหรือ ทุกวันนี้สถาบันครอบครัวก็อ่อนแอ ชุมชนก็ไม่เข้มแข็ง สังคมก็เต็มไปด้วยสภาพปัญหา ข้อเสนอนี้จะไม่ยิ่งสร้างความเปราะบางให้กับสังคมซ้ำเติมยิ่งขึ้นอีกหรือ
หก ผลกระทบไม่ได้แสดงให้เห็นทันที แต่มันจะส่งผลระยะยาว และทำให้สังคมเสื่อมลงเรื่อยๆ ถึงเวลานั้นคนที่เสนอและพยายามผลักดันจะได้อยู่ดูผลงานของตัวเองหรือเปล่า !
เจ็ด เกิดค่านิยมใหม่ให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่เรียนรู้ว่า “สิ่งผิดกฎหมายทำให้มันถูกกฎหมาย”
แปด สังคมเกิดปัญหาเสื่อมเรื่องคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
อ้อ เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะคนทำงานเอ็นจีโอเท่านั้นนะที่เขาออกมาต่อต้าน แต่คนที่เขาเป็นพ่อแม่ที่ดีรู้ผิดชอบชั่วดีก็ไม่เอาด้วยเช่นกัน เพราะคนเป็นพ่อแม่ต่างก็ไม่อยากให้ลูกหลานของตัวเองเล่นการพนัน และรู้ว่าเมื่อติดการพนันมันจะนำไปสู่หายนะอย่างไร
ถามหน่อยว่า เงินหลายพันหลายหมื่นล้านบาทที่คิดว่าจะสามารถสร้างรายได้ เมื่อเทียบกับผลกระทบที่จะตามมาอีกมากมาย ตอบชัดๆ ทีว่ามันคุ้มค่าหรือ !!
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่