อดีตผู้ว่าธนาคารกลางสวิตฯ มองเศรษฐกิจโลกในระยะยาวยังมีความเสี่ยง แนะธนาคารกลางทั่วโลกบริหารจัดการเงินทุนสำรองฯ และกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดงานเสวนา BOT Policy Forum ครั้งที่ 5 โดยเชิญ นายฟิลิปป์ ฮิลเดอแบรนด์ (Philipp Hildebrand) อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และรองประธานกรรมการบริษัทจัดการกองทุน BlackRock ร่วมปาฐกถา ในหัวข้อ “State of the Global Economy and Implications for Financial Markets” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินนโยบายของธนาคารกลาง ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธปท. กล่าวว่า อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ มองว่า เศรษฐกิจโลกในระยะสั้นจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป แต่ในระยะยาวเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง และยังคาดการณ์ได้ยากว่าจะเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพหรือไม่ เพราะว่าในระยะยาวยังต้องจับตาว่าความเสี่ยงใน 4 ด้าน คือ ความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจโลกพึ่งพาการก่อหนี้ อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ยังต้องติดตามว่าในระยาวจะมีการปรับลดการก่อหนี้ลงได้อย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นข้อจำกัดในการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคต ความเสี่ยงจากการถอนการช่วยเหลือในวิกฤตเศรษฐกิจของธนากลางในแต่ละประเทศ ซึ่งจะใช้วิธีใดเพื่อไม่ให้กระทบกับตลาดการเงิน เช่น การออกมาตรการดูแลตลาดหุ้นในประเทศจีนที่ปรับลดลงมาก การปรับโครงสร้างของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกเพื่อรองรับความผันผวน และการเพิ่มประสิทธิในการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพราะยอมรับว่าการพัฒนาเทคโนโลยีอินโนเวชันจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้ผลิตจะต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
ขณะเดียวกัน ยังต้องติดการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจที่เติบโตช้าจากการลงทุน และการบริโภคที่ลดต่ำลง เพราะจากที่ติดตามสถานการณ์การลงทุน และการบริโภคในปัจจุบันยังไม่มั่นใจว่าเกิดจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง หรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงมาก แต่ยอดการบริโภคยังไม่ได้เพิ่มขึ้น และพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังประหยัดค่าใช้จ่าย และเก็บออมมากขึ้น และไม่มั่นใจว่าราคาน้ำมันที่ลดลงมากเกิดจากอุปสงค์ในโลกลดลง หรือการพัฒนาเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้ราคาน้ำมันถูกลงได้
อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ยังแนะนำว่า ท่ามกลางความเสี่ยงธนาคารกลางทั่วโลกควรจะต้องบริหารจัดการเงินทุนสำรองระหว่างประเทศโดยการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน และรองรับความผันผวนของตลาดโลก แต่ธนาคารกลางจะต้องคำนึงเสมอว่าการกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองระหว่างประเทศจะต้องเป็นปัจจัยรองจากการดำเนินนโยบายการเงินเป็นหลัก เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ