กะตะกรุ๊ป แต่งตัวเข้าตลาด คาดยื่นไฟลิ่งเพื่อระดมทุนได้ในปี 60 หวังนำเงินขยายธุรกิจเป็นทุน พร้อมตั้ง แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ เป็นที่ปรึกษาการเงิน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท กะตะกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึง แผนเตรียมการนำ กะตะกรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า คาดว่าสามารถยื่นไฟลิ่งและระดมทุนได้ในปี 2560 ทั้งนี้ กะตะกรุ๊ป ประกอบธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่มีการให้บริการที่หลากหลายได้มาตรฐานบนทำเลที่ดีที่สุดในเมืองไทย ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สมุย และกระบี่ ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์ทางด้านการบริหารจัดการโรงแรมยาวนานกว่า 35 ปี
นายประมุขพิสิฐ อัจริยะฉาย ประธานกรรมการโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดหวังเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปลงทุนในจังหวัดที่มีศักยภาพเพื่อขยายโรงแรมในอนาคต เช่น พัทยา หัวหิน และนำไปสร้างแหล่งชอปปิ้งครบวงจร และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
ปัจจุบันกะตะกรุ๊ป มีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือที่มีชื่อเสียง 6 แห่งในภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ กะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา, ภูเก็ต ออร์คิด รีสอร์ท แอนด์ สปา, กานดาบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา บนเกาะสมุย และรีสอร์ท ริมชายหาดอีก 3 แห่ง ภายใต้แบรนด์ บียอน ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งแต่ละโรงแรมมีจุดเด่นที่ตอบสนองความต้องการของแขกผู้พักต่างกัน ทำให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่ต้องการจัดประชุมและสัมมนา หรือจัดพิธีแต่งงานบนชายหาด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยูระหว่างดำเนินโครงการ เดอะ แลนด์มาร์ค ป่าตอง ที่ประกอบด้วยโรงแรมและแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่ในทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ และเชื่อว่า บริษัทฯ จะได้ประโยชน์ทั้งในส่วนของโรงแรมและพื้นที่ให้เช่า ที่จะเป็นรายได้ที่เพิ่มเข้ามาในอนาคตอีกทางหนึ่ง
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท กะตะกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึง แผนเตรียมการนำ กะตะกรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า คาดว่าสามารถยื่นไฟลิ่งและระดมทุนได้ในปี 2560 ทั้งนี้ กะตะกรุ๊ป ประกอบธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่มีการให้บริการที่หลากหลายได้มาตรฐานบนทำเลที่ดีที่สุดในเมืองไทย ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สมุย และกระบี่ ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์ทางด้านการบริหารจัดการโรงแรมยาวนานกว่า 35 ปี
นายประมุขพิสิฐ อัจริยะฉาย ประธานกรรมการโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดหวังเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปลงทุนในจังหวัดที่มีศักยภาพเพื่อขยายโรงแรมในอนาคต เช่น พัทยา หัวหิน และนำไปสร้างแหล่งชอปปิ้งครบวงจร และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
ปัจจุบันกะตะกรุ๊ป มีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือที่มีชื่อเสียง 6 แห่งในภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ กะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา, ภูเก็ต ออร์คิด รีสอร์ท แอนด์ สปา, กานดาบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา บนเกาะสมุย และรีสอร์ท ริมชายหาดอีก 3 แห่ง ภายใต้แบรนด์ บียอน ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งแต่ละโรงแรมมีจุดเด่นที่ตอบสนองความต้องการของแขกผู้พักต่างกัน ทำให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่ต้องการจัดประชุมและสัมมนา หรือจัดพิธีแต่งงานบนชายหาด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยูระหว่างดำเนินโครงการ เดอะ แลนด์มาร์ค ป่าตอง ที่ประกอบด้วยโรงแรมและแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่ในทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ และเชื่อว่า บริษัทฯ จะได้ประโยชน์ทั้งในส่วนของโรงแรมและพื้นที่ให้เช่า ที่จะเป็นรายได้ที่เพิ่มเข้ามาในอนาคตอีกทางหนึ่ง