ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เตรียมยื่นไฟล์ลิง ก.ล.ต. เดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO 38 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาด mai “ทริ้ปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวซอรี่” ที่ปรึกษาการเงินเผยนำเงินที่ได้รีไฟแนนซ์หนี้ และเป็นทุนหมุนเวียน คาดเข้าเทรดได้ไตรมาส 3 นี้
อภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นไฟล์ลิงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO ในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อออกหุ้นเพิ่มทุน 38 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai คาดขายหุ้นและเข้าเทรดได้ในไตรมาส 3 ปีนี้
โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น 30-40% ชำระหนี้เจ้าหนี้ที่ครบกำหนด ส่วนที่เหลือจะรองรับแผนการจ่ายค่ามัดจำเพื่อซื้อเรือใหม่ขนาด 1,000 ตันกรอสอีก 1 ลำ ซึ่งมีราคา 300 ล้านบาท
นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริ้ปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2557 บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่มีสินทรัพย์ทั้ง 751 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรือที่มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นสินทรัพย์ในรูปท่าเทียบเรือดอนสัก-สมุย และกอนสัก-พะงัน ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของตัวเอง นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้สินราว 30-40 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการขนส่งทางเรือเฟอร์รี่ในรูปแบบต่างๆ อีก 665 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท สัดส่วนผลตอบแทนกำไร 13% และมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 0.64 ล้านบาท
ทั้งนี้ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ มีธุรกิจหลักคือ การให้บริการเรือข้ามฟากเฟอร์รี่ และท่าเทียบเรือรายใหญ่สุดในประเทศจะอยู่ที่การให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเพื่อรับขนส่งทั้งคน ยานพาหนะ รถบรรทุก และอุปกรณ์เครื่องจักรกลขนาดใหญ่บนเส้นทาง 2 เส้นทาง คือ ดอสัก-สมุย และดอนสัก-พะงันนั้น จะมีสัดส่วนที่คิดเป็นรายได้ทั้งสิ้นราวๆ 90% ของรายได้รวมในแต่ละปี
สำหรับแนวโน้มมูลค่าอุตสาหกรรมนี้ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าการขนส่งทางเฉพาะผู้โดยสารของบริษัทนั้นจะน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 600,000 คนในปัจจุบัน เป็น 1,000,000 คน ภายใน 2-3 ปี หลังการเปิด AEC อย่างสมบูรณ์แล้ว