“ก.ล.ต.” อำนวยความสะดวกแก่ issuer โดยเพิ่มวิธีการขอแบบอนุญาตแบบโครงการที่มีอายุรอบละ 2 ปี เพื่อให้สามารถออกและเสนอขายตราสารหนี้ ครั้งต่อไปได้ทันที โดยยื่นเฉพาะข้อมูลลักษณะของตราสาร และข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ซึ่งจะเกิดความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสากล มั่นใจช่วยกระตุ้นการขยายตัวสินค้าของภาคเอกชน
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุน มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตและการเปิดเผยข้อมูลสำหรับผู้ออกตราสารหนี้ (issuer) โดยเพิ่มวิธีการขออนุญาตแบบโครงการที่มีอายุรอบละ 2 ปี issuer สามารถเสนอขายตราสารหนี้ในครั้งต่อๆ ไป ได้ทันทีภายใต้อายุโครงการนี้ โดยยื่นเฉพาะข้อมูลสำคัญของลักษณะตราสาร และข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน
สำหรับเกณฑ์การอนุญาตแบบนี้ เหมาะกับผู้เสนอขายตราสารหนี้หลายครั้งภายในระยะเวลาใกล้เคียงกัน รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ issuer ให้สามารถเสนอขายตราสารหนี้ได้ทันทีเมื่อต้องการใช้เงิน
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เดิม issuer ต้องขออนุญาตเป็นรายครั้ง และยื่นข้อมูลที่มีรายละเอียดแบบเต็ม การพิจารณาอนุญาตทุกครั้งจึงอาจกระทบต่อแผนการระดมทุน ต้นทุนการระดมทุน และความต้องการเงินทุนของ issuer แต่ละราย
อย่างไรก็ดี issuer ต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตและเปิดเผยข้อมูลตลอดอายุโครงการ มิฉะนั้น จะถูกระงับการเสนอขาย
โดยในปี 2557 การออกและเสนอขายตราสารหนี้ในประเทศไทย มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 9.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการออกเสนอขายตราสารหนี้ภาครัฐจำนวน 6.3 ล้านล้านบาท และตราสารหนี้ภาคเอกชน จำนวน 3.5 ล้านล้านบาท
ดังนั้น การปรับปรุงเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ issuer นี้ จะมีส่วนช่วยเพิ่มสัดส่วนการออก และเสนอขายตราสารหนี้ภาคเอกชน อย่างไรก็ดี issuer ต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาต และเปิดเผยข้อมูลตลอดอายุโครงการ มิฉะนั้น จะถูกระงับการเสนอขาย ทั้งนี้ คาดว่าประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนจะมีผลใช้บังคับภายในไตรมาส 3 ปี 2558