ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม แจ้งงบไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนลดลงเหลือ 61 ล้านบาท จากงวดนี้ปีก่อนขาดทุน 155 ล้านบาท เหตุรายได้งานก่อสร้างลด พร้อมแจ้งการวางเงินมัดจำเพื่อเข้าทำการตรวจสอบสถานะของธุรกิจโรงแรมของผู้ขายที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดท่องเที่ยวชั้นนํา (Due Diligence) คาดแล้วเสร็จสิงหาคม 58 นี้
นายทรรศิน จงอัศญากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ T แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกสิ้นสุด 31 มีนาคม 58 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 61.02 ล้านบาท ลดลงจากงวดนี้ปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 155.33 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 170.11 ล้านบาท เทียบกับงวดนี้ก่อนที่มีรายได้รวม 432.37 ล้านบาท หรือรายได้รวมลดลง 262.26 ล้านบาท หรือ 60.66% เพราะบริษัทฯ มีรายได้จากการรับงานก่อสร้างลดลง 258.78 ล้านบาท หรือ 61.05% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการชะลอการรับงาน และอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร อีกทั้งต้นทุนจากการรับงานก่อสร้างลดลง 311.96 ล้านบาท หรือ 66.04% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังแจ้งเกี่ยวกับการวางเงินมัดจำ จํานวน 10 ล้านบาท กับบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งการวางเงินมัดจําดังกล่าวเป็นการวางเงินมัดจําภายใต้บันทึกความเข้าใจเพื่อซื้อขายหุ้นในธุรกิจโรงแรม (MOU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเข้าทําการตรวจสอบสถานะของธุรกิจโรงแรมของผู้ขายที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดท่องเที่ยวชั้นนํา (Due Diligence) ซึ่งเป็นการตรวจสถานะเท่านั้น โดยการเข้าซื้อหุ้นภายใต้ MOU จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขความพึงพอใจในผลการตรวจสอบสถานะ ดังนั้น หากภายหลังจากการตรวจสอบสถานะ บริษัทพบว่าผลการตรวจสอบไม่เป็นที่พึงพอใจ บริษัทก็จะไม่เข้าทําการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และผู้ขายจะต้องคืนเงินมัดจําดังกล่าวให้แก่บริษัทด้วย และการตรวจสอบสถานะดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนสิงหาคม 2558 นี้
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทเห็นว่าผลการตรวจสอบสถานะเป็นที่พึงพอใจ บริษัทจะดําเนินการเข้าทํารายการซื้อขายหุ้นในธุรกิจโรงแรมดังกล่าวในราคาที่จะตกลงกันอีกครั้งตามผลของการตรวจสอบสถานะภายใต้หลักเกณฑ์ที่กําหนดในประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน
นายทรรศิน จงอัศญากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ T แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกสิ้นสุด 31 มีนาคม 58 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 61.02 ล้านบาท ลดลงจากงวดนี้ปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 155.33 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 170.11 ล้านบาท เทียบกับงวดนี้ก่อนที่มีรายได้รวม 432.37 ล้านบาท หรือรายได้รวมลดลง 262.26 ล้านบาท หรือ 60.66% เพราะบริษัทฯ มีรายได้จากการรับงานก่อสร้างลดลง 258.78 ล้านบาท หรือ 61.05% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการชะลอการรับงาน และอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร อีกทั้งต้นทุนจากการรับงานก่อสร้างลดลง 311.96 ล้านบาท หรือ 66.04% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังแจ้งเกี่ยวกับการวางเงินมัดจำ จํานวน 10 ล้านบาท กับบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งการวางเงินมัดจําดังกล่าวเป็นการวางเงินมัดจําภายใต้บันทึกความเข้าใจเพื่อซื้อขายหุ้นในธุรกิจโรงแรม (MOU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเข้าทําการตรวจสอบสถานะของธุรกิจโรงแรมของผู้ขายที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดท่องเที่ยวชั้นนํา (Due Diligence) ซึ่งเป็นการตรวจสถานะเท่านั้น โดยการเข้าซื้อหุ้นภายใต้ MOU จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขความพึงพอใจในผลการตรวจสอบสถานะ ดังนั้น หากภายหลังจากการตรวจสอบสถานะ บริษัทพบว่าผลการตรวจสอบไม่เป็นที่พึงพอใจ บริษัทก็จะไม่เข้าทําการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และผู้ขายจะต้องคืนเงินมัดจําดังกล่าวให้แก่บริษัทด้วย และการตรวจสอบสถานะดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนสิงหาคม 2558 นี้
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทเห็นว่าผลการตรวจสอบสถานะเป็นที่พึงพอใจ บริษัทจะดําเนินการเข้าทํารายการซื้อขายหุ้นในธุรกิจโรงแรมดังกล่าวในราคาที่จะตกลงกันอีกครั้งตามผลของการตรวจสอบสถานะภายใต้หลักเกณฑ์ที่กําหนดในประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน
