สรรพสามิตมั่นใจสิ้นปีเก็บรายได้เกินเป้า 2 หมื่นล้าน ได้อานิสงส์จากขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ช่วยทดแทนภาษีรถยนต์ เบียร์ และสุรา ที่ยอดจัดเก็บหายไป เนื่องจากภาวะ ศก. และการบริโภคชะลอตัว
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ยอดจัดเก็บรายได้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จัดเก็บได้เป็นเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 8.5 พันล้านบาท และสูงกว่าเป้าหมาย 2พันล้านบาท โดยยังเป็นผลมาจากภาษีน้ำมันที่จัดเก็บได้เกินเป้ากว่า 8 พันล้านบาท ขณะที่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ สุรา เบียร์ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายจากภาวะเศษรฐกิจ และการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ มองว่าสถานการณ์ในช่วง 3 เดือนนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะในช่วงปลายปีจะมีงานมหกรรมยานยนต์ และมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ครื่องดื่มทั้วแอลกอฮอล์ และไม่ใชแอลกอฮอล์น่าจะขายดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณการผลิตสินค้าเพื่อสต๊อกไว้รับช่วงไฮซีซันแล้ว จึงมั่นใจว่าทั้งปีงบประมาณ 2558 กรมฯ น่าจะเก็บรายได้เกินเป้าหมายกว่า 2 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นหลังมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตลิตรละ 4.25 บาท จึงอาจเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน และมีการใช้น้ำมันเขียวไปในทางผิดวัตถุประสงค์เดิมที่ต้องการอุดหนุนกลุ่มชาวประมง เนื่องจากราคาแตกต่างกันเกือบ 10 บาท จึงได้ประสานงานกับ 11 หน่วยงานในการตรวจจับ และปราบปรามให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยพบแถวสตูล และฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะน้ำมันเขียวที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเทียบกับปีก่อนจาก 200-300 ล้านลิตร เพิ่มเป็น 500-600 ล้านลิตร จึงต้องดูแลไม่ให้ลักลอบนำมาใช้บนบกต่อไป
สำหรับการจัดเก็บรายได้ในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ2557 สามารถจัดเก็บได้ 3.3 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 3.5 หมื่นล้านบาท และสูงกว่าประมาณการกว่า1.3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ส่งผลให้เก็บภาษีเกินเป้าถึง 4.3 หมื่นล้านบาท หรือ 87% ซึ่งมาช่วยทดแทนภาษีรถยนต์ที่หายไปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ 22% และภาษีเบียร์ที่หายไปกว่า 6.2 พันล้านบาท และภาษีสุราที่หายไปกว่า 5.8 พันล้านบาท ขณะที่ภาษียาสูบยังจัดเก็บได้เกินเป้าหมายเล็กน้อย รวมถึงเครื่องดื่มอื่นๆ ก็จัดเก็บได้ดีขึ้น
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ยอดจัดเก็บรายได้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จัดเก็บได้เป็นเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 8.5 พันล้านบาท และสูงกว่าเป้าหมาย 2พันล้านบาท โดยยังเป็นผลมาจากภาษีน้ำมันที่จัดเก็บได้เกินเป้ากว่า 8 พันล้านบาท ขณะที่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ สุรา เบียร์ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายจากภาวะเศษรฐกิจ และการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ มองว่าสถานการณ์ในช่วง 3 เดือนนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะในช่วงปลายปีจะมีงานมหกรรมยานยนต์ และมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ครื่องดื่มทั้วแอลกอฮอล์ และไม่ใชแอลกอฮอล์น่าจะขายดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณการผลิตสินค้าเพื่อสต๊อกไว้รับช่วงไฮซีซันแล้ว จึงมั่นใจว่าทั้งปีงบประมาณ 2558 กรมฯ น่าจะเก็บรายได้เกินเป้าหมายกว่า 2 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นหลังมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตลิตรละ 4.25 บาท จึงอาจเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน และมีการใช้น้ำมันเขียวไปในทางผิดวัตถุประสงค์เดิมที่ต้องการอุดหนุนกลุ่มชาวประมง เนื่องจากราคาแตกต่างกันเกือบ 10 บาท จึงได้ประสานงานกับ 11 หน่วยงานในการตรวจจับ และปราบปรามให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยพบแถวสตูล และฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะน้ำมันเขียวที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเทียบกับปีก่อนจาก 200-300 ล้านลิตร เพิ่มเป็น 500-600 ล้านลิตร จึงต้องดูแลไม่ให้ลักลอบนำมาใช้บนบกต่อไป
สำหรับการจัดเก็บรายได้ในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ2557 สามารถจัดเก็บได้ 3.3 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 3.5 หมื่นล้านบาท และสูงกว่าประมาณการกว่า1.3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ส่งผลให้เก็บภาษีเกินเป้าถึง 4.3 หมื่นล้านบาท หรือ 87% ซึ่งมาช่วยทดแทนภาษีรถยนต์ที่หายไปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ 22% และภาษีเบียร์ที่หายไปกว่า 6.2 พันล้านบาท และภาษีสุราที่หายไปกว่า 5.8 พันล้านบาท ขณะที่ภาษียาสูบยังจัดเก็บได้เกินเป้าหมายเล็กน้อย รวมถึงเครื่องดื่มอื่นๆ ก็จัดเก็บได้ดีขึ้น
