xs
xsm
sm
md
lg

“รวงข้าว” มองเป้าหุ้นครึ่งปีหลัง 1,600 จุด ระบุ ศก.ฟื้นช้า กดดันตลาดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“รวงข้าว” ชี้ ภาวะ ศก. ขยายตัวต่ำ และฟื้นได้ช้า แถมมีปัญหาภัยแล้งที่หนักกว่าคาด ทำให้อาจถูกปรับเป้าจีดีพีในปี 58 ลงได้อีก และถือเป็นปัจจัยหลัก กดดันตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง พร้อมมองเป้าดัชนีฯ ไว้ที่ระดับ 1,600 จุด จากประมาณการกำไร บจ. และสภาพคล่องโลก เป็นตัวหนุน

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงที่จะขยายตัวต่ำและฟื้นตัวได้ช้า และคาดว่าตลาดน่าจะมีการปรับคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีในปี 2558 ลงอีก โดยเสียงส่วนใหญ่คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 3% ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรวมถึง บลจ.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้อยู่ที่ระดับ 2.8%

ทั้งนี้ มีปัจจัยหลายด้านที่กดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ ได้แก่ ราคาพืชผลทางเกษตรที่อยูในระดับต่ำ ประกอบกับปัญหาภัยแล้งที่มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของกลุ่มเกษตรกร การบริโภคภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีความระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น สวนทางกับกำลังซื้อที่มีเพิ่มขึ้นเมื่อราคาน้ำมันคงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่การส่งออกยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า อาทิ จีน ยุโรป ชะลอตัวลง นอกจากนี้ หากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐยังคงล่าช้าและไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ดีในระยะ 1 - 2 เดือนที่ผ่านมา แนวโน้มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น อาทิ การเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่คาดว่า จะเริ่มดำเนินการภายในครึ่งปีหลัง รวมแล้วเป็นมูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทย นางสาวธิดาศิริ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มธนาคารซึ่งหนี้เสียมีแนวโน้มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลให้อาจมีการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นและกดดันให้มีการปรับลดประมาณการกำไรลง

ส่วนปัจจัยที่คาดว่า จะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นในครึ่งหลังปี 2558 ปัจจัยหลักมาจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ และการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธุรกิจส่งออก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากสภาพคล่องในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง อันเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักๆ ของโลก อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่คาดว่า จะชะลอไปเป็นช่วงปลายปี 2558 ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นโดยรวม

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ กรณีการแพร่ระบาดของโรค MERs และการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซที่จะส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาการลงทุน ทำให้ตลาดเกิดความผันผวนได้ในระยะสั้น แต่ผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจโดยตรงต่อประเทศไทยคาดว่าจะมีไม่มากนัก

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2558 อยู่ที่ระดับ 1,600 จุด ด้วยอัตราส่วน Forward P/E ที่ระดับ 16 เท่า จากตัวเลขประมาณการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของ Bloomberg ที่ประมาณ 30%


กำลังโหลดความคิดเห็น