แบงก์ออมสิน เผยผลดำเนินงานครึ่งแรกปี 58 มีกำไรสุทธิกว่า 7.8 พันล้าน สูงกว่าปีก่อน 1.02 พันล้าน ขณะที่เอ็นพีแอลพุ่งทะลัก 2% กังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และภัยแล้ง อาจกระทบผลดำเนินงาน เล็งพิจารณาปรับแผนปล่อยสินเชื่อใหม่ พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานสากลก้าวสู่การเป็นผู้นำธนาคารประชาชนแห่งภูมิภาคอาเซียน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อภาวะหนี้เสียของธนาคารให้ปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 1.6 เป็นร้อยละ 2 ของสินเชื่อรวม แต่มีผลกระทบต่อภาพรวมของฐานะธนาคารไม่มาก รวมทั้งธนาคารยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในการปรับโครงสร้างหนี้ จึงคาดว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้ และรักษาระดับหนี้เสียให้ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ในสิ้นปีนี้
นายชาติชาย กล่าวว่า ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้น คงเหลือชำระเพียงดอกเบี้ยรายเดือน เพื่อลดภาระชำระหนี้รายเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มเปิดให้ลูกหนี้ลงทะเบียนระยะหนึ่ง จำนวน 55,000 ราย มูลหนี้ 34,000 ล้านบาท ยอมรับว่า มีสัดส่วนน้อยต้องการขยายเวลา และประชาสัมพันธ์ให้รายย่อยรับรู้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามาติดต่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นห่วงภาระหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง
สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิ 7,878 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,020 ล้านบาท ด้านเงินฝากยังเน้นภารกิจสถาบันเพื่อการออมด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเตรียมสภาพคล่องรองรับการปล่อยสินเชื่อ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ระดมเงินฝากได้ 2.019 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งจำนวน 1.935 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีร้อยละ 3.41 ด้านสินเชื่อมียอดสินเชื่อ 1.75 ล้านล้านบาท ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กลุ่มรายย่อย เอสเอ็มอี และฐานรากเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาท จึงเดินหน้าขยายศูนย์ปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดเพิ่มจาก 6 แห่ง เป็น 18 แห่ง ขณะเดียวกัน ได้ระมัดระวังการอนุมัติสินเชื่อเพิ่ม สาเหตุจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สูงขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว
ทั้งนี้ ปี 58 ธนาคารฯ ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2557 ตั้งเป้าหมายด้านเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 หรือกว่า 100,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิตั้งเป้าหมาย 21,000 ล้านบาท โดยรักษาสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย ฐานราก และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยสินเชื่อรายใหญ่เล็กน้อย ดังนั้น ในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้จึงมุ่งสนองตามนโยบายของรัฐบาล ด้านสินเชื่อ Micro SME เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้ และเงื่อนไขที่ผ่อนปรนเหมาะสมต่อลูกค้าแต่ละราย พร้อมยกระดับบริการทางการเงิน และคุณภาพการให้บริการสู่มาตรฐานสากล ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำธนาคารประชาชนแห่งภูมิภาคอาเซียน” ภายใต้แนวคิดมุ่งสู่การเป็น “ธนาคารออมสินยุคใหม่ GSB New Era” ด้วยการดึงกลุ่มลูกค้า Gen Y ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ด้วยการสื่อรูปแบบใหม่ๆ เช่น e-Channel, Social Media, Social Network การเตรียมให้บริการบัตรเครดิตในต้นปีหน้า
