xs
xsm
sm
md
lg

นักวิเคราะห์ มองหุ้นกลุ่มแบงก์จะไม่มีข่าวร้ายให้ประหลาดใจอีกแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดลบ 2.03 จุด แม้จะมีแรงซื้อกลับในกลุ่มแบงก์ โบรกฯ เผยดัชนีแกว่งในกรอบแคบ และมีวอลุ่มเทรดเบาบาง โดยมีปัจจัย ศก. ที่ยังอ่อนแอ กดดันตลาดฯ เชื่อกลุ่มแบงก์จะไม่มีข่าวร้ายให้ประหลาดใจอีกแล้ว แนะเข้าซื้อสะสม พร้อมประเมินผลการลงประชามติกรีซ ไม่มีผลต่อ SET มากนัก คาดไม่หลุด 1,480 จุด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,489.59 จุด ลดลง 2.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.14% มูลค่าการซื้อขาย 36,792.66 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ดัชนีปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 1,495.37 จุด และต่ำสุดที่ 1,485.50 จุด

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ ด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง โดยนักลงทุนซื้อกลับหุ้นในกลุ่มแบงก์หลังจากที่ปรับลดลงแรงเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ที่โบรกเกอร์ต่างปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ลงจากแนวโน้มการตั้งสำรองที่สูงขึ้น ทำให้เมื่อมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ออกมา คาดว่า จะไม่มีข่าวร้ายที่สร้างความประหลาดใจอีกแล้ว

ขณะที่ มองว่า เป็นโอกาสที่นักลงทุนที่มีระยะเวลาถือครองหุ้น 1 ปีขึ้นไป สามารถเข้าลงทุนหุ้นแบงก์ได้ เพราะระดับมูลค่า (valuation) ในระดับปัจจุบันนับว่า หุ้นแบงก์น่าสนใจที่สุด และจะสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้สูงในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มูลค่าซื้อขายที่เข้ามาในวันนี้ค่อนข้างเบาบาง หลังจากที่นักลงทุนรอดูสถานการณ์จากกรีซ ที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 5 ก.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดว่า จะยอมรับข้อเสนอการปฏิรูปจากเจ้าหนี้หรือไม่

โดยหากเสียงส่วนใหญ่โหวต “Yes” หรือยอมรับแผนปฏิรูปของกลุ่มเจ้าหนี้ Troika ก็จะทำให้นายกรัฐมนตรีของกรีซจะหันหน้าเข้าเจรจากับ Troika เพื่อยอมรับกับเงื่อนไขเงินช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นผลกระทบเชิงบวก แต่ปัญหาหนี้กรีซก็อาจจะยืดเยื้อหากรัฐบาลจะประกาศลาออกด้วยซึ่งจะทำให้การเมืองกรีซจะเข้าภาวะสูญญากาศอีกครั้ง

ขณะที่ หากผลประชามติส่วนใหญ่โหวต “No” ก็จะเป็นเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เพราะนายกรัฐมนตรีกรีซก็จะนำประชามติดังกล่าวไปเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งจะทำให้มีความยืดเยื้อ และนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) มูลค่า 3.5 พันล้านยูโรในวันที่ 20 ก.ค.นี้มากขึ้น

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในสัปดาห์หน้า มองว่า แม้จะต้องจับตาผลการลงประชามติของกรีซ แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีการลงทุนในหุ้นไทยไม่มากนัก แม้เมื่อวานนี้จะมีการขายสุทธิออกมากว่า 4 พันล้านบาท แต่ก็เป็นการขายเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มธนาคารเท่านั้น

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศน่าจะมีอิทธิพลต่อการลงทุนมากกว่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังออกมาไม่ดีนัก ดังนั้น คาดว่า ไม่ว่าผลการลงประชามติของกรีซจะออกมาในทิศทางใดก็เชื่อว่าดัชนีที่ระดับ 1,480 จะรองรับได้ ขณะที่มองแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,510 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น