"วายแอลจี" ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส กดดันราคาทอง คาดเฟดอาจปรับดอกเบี้ย2ครั้งในปีนี้ พร้อมแนะติดตามสถานการณ์กรีซใกล้ชิด ชี้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคามาก คาดทำให้ราคาผันผวนมากขึ้น ประเมินหากยืนเหนือ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ แนะนำทยอยแบ่งขายลดความเสี่ยง
"วรุต รุ่งขำ" ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองว่า ราคายังคงมีการอ่อนตัวลงมา หลังแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯยังคงมีทิศทางที่สดใสอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดกระแสการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือว่าเฟดอาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกน่าจะมีการปรับขึ้นในเดือนกันยายน ทั้งนี้ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจ รวมถึงการขายบ้านมือสองหรือยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ แสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงมีทิศทางที่แข็งแกร่ง และตัวเลขพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี
ขณะที่ตัว GDP ประจำไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ แม้ตัวเลขจะชลอตัวลง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้เศรษฐกิจยังชะลอตัวลงต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยดังกล่าวยังคงส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ มากขึ้น ขณะที่ตัวเลขจำนวนของรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ยังคงออกมาต่ำกว่า 3 แสนราย ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 15 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อตลาดแรงงานที่ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาดูกรีซ ว่าการประชุมเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือจะเป็นไปในทิศทางใด แต่หากแนวโน้มการเจรจาในกรีซ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นตัวส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำ
โดยปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา คือ สถานการณ์ในกรีซ หากในกรีซยังคงตึงเครียดและหากยังคงมีทีท่าว่ายังไม่สามารถชำระเงินกู้ได้ภายในกำหนดเวลา กรีซอาจจะต้องจำเป็นการออกจากสมาชิกกลุ่มยูโรโซน และสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำอาจจะได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่อย่างไรแล้วหากกรีซสามารถนำเงินมาชำระกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ คิดว่าการอ่อนตัวลงของราคาทองคำอาจจะไม่มากนัก เพราะตลาดทองคำมีการรับข่าวในเชิงลบไปค่อนข้างมาก ขณะที่นักลงทุน TFEX อาจจะต้องวางแผนการลงทุนรอบคอบ เนื่องจากจะปิดทำการในวันพุธ วันหยุดครึ่งปีธนาคาร ขณะที่ตลาดธนาคารในสหรัฐฯจะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวันชาติ
"นักลงทุนสามารถติดตามตัวเลขเปิดเผยเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขในฝั่งของภาคตลาดแรงงาน รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ การจ้างงานภาคนอกอัตราการเกษตร และอัตราการว่างงานประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งจะสะท้อนในส่วนของตลาดแรงงานและความแข็งแกร่ง และสามารถใช้ตัวเลขดังกล่าวเป็นการประกอบในการตัดสินใจในการลงทุน"
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เนื่องจากมีวันหยุดทั้งในตลาดบ้านเราและต่างประเทศ และจะมีการประกาศตัวเลขสำคัญในภาคตลาดแรงงานในฝั่งสหรัฐฯ ดังนั้นไม่ควรลงทุนในจำนวนที่มากหากมีสถานะการลงทุนค่อนข้างมาก อาจจะลดสถานะการลงทุนลง ประกอบกับทิศทางราคาทองคำอาจจะมีความผันผวนมากขึ้นหลังจากสภานการณ์ในกรีซมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นนักลงทุนที่ต้องการซื้อทองคำอาจจะต้องรอการอ่อนตัวของราคาทองคำลงมา โดย YLG
ประเมินในส่วนของโซนแนวรับบริเวณ 1,150-1,120 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้ยังคงเป็นแนวรับสำคัญ คิดว่าหากราคามีการย่อตัวใกล้โซนแนวรับดังกล่าว อาจเกิดการดีดตัวหรือรีบราวน์ขึ้นของราคา ขณะที่ราคามีการดีดตัวขึ้น อาจจะต้องพิจารณาตั้งแต่โซน 1,200-1,220 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ อีกทั้งหากการดีดตัวขึ้นของราคายังติดแนวต้าน 1,200 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนที่ถือครองทองคำไว้ อาจจะมีการแบ่งทยอยทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคาผ่านไปได้ สามารถชะลอขายไปยังแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,220 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์