xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนกระทุ้งรัฐกำหนด Local Content โครงการ 1.4 ล้านล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ธีรวัต อมรธาตรี
เอกชนกระทุ้งรัฐบาลกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ และชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 1.4 ล้านล้านบาท เชื่อผู้ประกอบการในประเทศได้ประโยชน์ แถมกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลพิจารณากำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ และชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศ หรือ Local content ให้ชัดเจน ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1.4 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนโครงการใหม่ๆ ที่ใช้นวัตกรรมสูง อย่างเช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เนื่องจากการที่รัฐบาลกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบในประเทศให้ชัดเจน จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบในส่วนของซัปพลายเชน รวมถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้างต่างๆ ทั้งในแง่ของปริมาณการรับงานที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และที่สำคัญผู้ประกอบการในประเทศจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำความรู้นั้นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมให้แก่ตนเอง รวมถึงจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย

“ถ้าอยากให้ผู้ประกอบการในประเทศได้รับประโยชน์ รัฐบาลต้องประกาศเพิ่มเติม หรือประกาศให้ชัดเจนเลยว่า แต่ละโครงการจะต้องมี Local content เท่าไหร่ เพราะไม่เพียงแต่เราจะได้เงิน แต่เราจะได้โนว์ฮาวด้วย เพราะผู้ประกอบการบ้านเราเก่ง และพร้อมที่จะเดินหน้า โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งตัวเงินและความรู้จะลงมาถึงผู้ประกอบการค่อนข้างมาก และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย” นายธีรวัต กล่าว

นายธีรวัต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการด้านผลิตชิ้นส่วนประกอบในส่วนของซัปพลายเชนโครงการก่อสร้างต่างๆ ในประเทศ โดย BM เป็นผู้ผลิต และแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น รางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และแผงควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคารต่างๆ ซึ่งมีสัดส่วนในการรับงานผ่านผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐานสูงถึง 60% ของงานทั้งหมด นอกจากนี้ BM ยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป และโลหะเชื่อมประกอบที่ใช้ในไฟฟ้าอุตสาหรรมและเครื่องจักรกลต่างๆ ดังนั้น บริษัทฯจะได้รับงานเพิ่มมากขึ้นไปด้วย หากรัฐบาลมีการประกาศสัดส่วนวัตถุดิบและชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศของโครงการต่างๆ ออกมาชัดเจน ซึ่งบริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่พร้อมรับงานเพิ่มเติมอีกมาก เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตเพียง 60% ของทั้งหมดเท่านั้น และยังสามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมได้อีกหากมีการรับงานมากขึ้น เพราะสามารถใช้กำลังการผลิตเพิ่มเติมจากโรงงานเชื่อมประกอบแห่งใหม่ขนาด 4,000 ตร.ม.ได้อีกด้วย

“ตั้งแต่เริ่มมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1.4 ล้านล้านบาท ผู้ประกอบการรายย่อยเริ่มตื่นตัว และจับมือกันว่าใครสามารถทำอะไรได้บ้าง หรือถ้ายังทำเองไม่ได้ ก็จับมือกับต่างชาติ เราจะได้ทั้งเงิน ลูกค้า และโนว์ฮาวด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น