พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ จับมือ 2 โบรกเกอร์กรุงลอนดอน-นิวยอร์กเป็น Global Partnership เปิดบริการลูกค้าแบบ One-Stop Service ตั้งแต่ซื้อจนย้ายเข้าอยู่ ปล่อยเช่า ขายต่อ หวังดึงเศรษฐีไทยลงทุนอสังหาฯ คาดเริ่มมีการซื้อ-ขายไตรมาส 3/58 ระบุตลาดคอนโดฯ ลอนดอน นิวยอร์ก 5 ปี ราคาปรับขึ้น 40% อัตราเช่าสูงกว่า 98%
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจในต่างประเทศของนักลงทุนไทย และเอเชียมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี เห็นได้จากการที่นักลงทุนไทยมีการเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ทำเลทองของเมืองใหญ่โดยเฉพาะที่นิวยอร์ก และกรุงลอนดอน สหรัฐอเมริกา ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯ เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับความต้องการของลูกค้า และขยายช่องทางการตลาด บริษัทฯ จึงได้ลงนามความร่วมมือในการเป็น Global Partnership ระหว่างโบรกเกอร์ 2 รายที่สหรัฐอเมริกา โดยที่กรุงนิวยอร์ก คือ Corcoran Group Real Estate และลอนดอน คือ W H Baker ในการเป็นพันธมิตรเพื่อนำลูกค้า และนักลงทุนไทยไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนเป็นการขยายโอกาสในการซื้อขายปล่อยเช่าไปยังลูกค้าต่างชาติในตลาดนิวยอร์ก และลอนดอน
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกความแข็งแกร่งของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนไทย และเอเชีย ผนวกกับโบรกเกอร์เบอร์ 1 ของนิวยอร์ก คือ Corcoran Group Real Estate และ W H Baker โบรกเกอร์ Private Client ของลอนดอน ลูกค้าจะได้รับการดูแลแบบ One-Stop Service ตั้งแต่การซื้อจนย้ายเข้าอยู่ ตลอดจนการลงทุนไม่ว่าจะเป็นขายต่อ หรือปล่อยเช่า ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา นักลงทุนจะประสบปัญหาทั้งในเรื่องขั้นตอนการซื้อขายที่แตกต่างจากเมืองไทย ตลอดจนต้องใช้เวลานานในการติดต่อประสานงาน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลอาคาร การปล่อยเช่า การหาผู้รับเหมา จะแยกงานกันทำ ทำให้ไม่สะดวกในการติดต่อ ซึ่ง Global Partner ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถจัดการเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดให้ได้” นายภูมิศักดิ์ กล่าว
สำหรับนิวยอร์ก เป็นเมืองที่มีความก้าวหน้า และมีโอกาสในการทำงานสูงที่สุดอีกเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ผู้คนสนใจย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยอยู่มากที่สุด โดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม และธุรกิจขนาดใหญ่ ตลาดหุ้น และการเงิน รวมไปถึงอุตสาหกรรมแฟชั่น ส่วนลอนดอน ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของการค้าโลก เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีอาศัยอยู่มากที่สุด หากพิจารณาภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของทั้ง 2 เมือง พบว่า พื้นที่บนเกาะแมนฮัตตัน ของนิวยอร์ก หรือไพรม์แอเรียใจกลางลอนดอน เป็นที่มีความต้องการจากนักลงทุน เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจอสังหาฯ ย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ ของกรุงเทพฯ
สำหรับชาวไทยกลุ่มที่เข้าไปซื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานไปศึกษา และมองหาโอกาสในการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าและขายต่อทำกำไรในอนาคต รวมทั้งเป็นกระจายความเสี่ยงทางด้านค่าเงินเพื่อไปครอบครองทรัพย์สินในสกุลเงินที่เป็นสกุลเงินหลักของโลก แทนที่จะลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว ในแมนฮัตตัน ราคาคอนโดมิเนียมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 5 ปีติดต่อกันแล้ว โดยราคาในปี 2558 ปรับเพิ่มมา 40% จากปี 2553 ซัปพลายที่มีอยู่ในตลาดใช้เวลาในการขายเพียง 3 เดือนกว่าเท่านั้น นอกจากนี้ ตลาดเช่ายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีอัตราเช่าสูงถึง 98.35% มีอัตราห้องว่างเพียง 1.65% และห้องที่ปล่อยเช่านั้นใช้เวลาอยู่ในตลาดเฉลี่ย 41 วัน ก็สามารถหาผู้เช่าได้
“การลงทุนต่างประเทศค่อนข้างเปิดกว้าง เห็นได้จากปัจจุบันที่เป็นช่วงเวลาของทุนเอเชียหลั่งไหลหาโอกาสสร้างผลตอบแทนต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ 4-5 ปีที่ผ่านมา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ทำการศึกษาตลาดเพื่อมองหาโอกาสในการนำลูกค้าไปลงทุนในต่างประเทศมาโดยตลอด และประสบความสำเร็จมาแล้วกับโครงการ 9 Elvaston Place ของแสนสิริ ที่ลอนดอน แต่การร่วมมือกับโบรกเกอร์ทั้ง 2 แห่งในการบุกตลาดต่างประเทศครั้งนี้ บริษัทจะทำการช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อขายคอนโดมิเนียมที่มีเสนอขายอยู่ในตลาดทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะโครงการของแสนสิริ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในลักษณะ Global Partnership ครั้งแรกของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริการแบบ One-Stop Service ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า และนักลงทุนไทย คาดว่าความร่วมมือกับโบรกเกอร์ทั้ง 2 แห่ง จะสามารถมีธุรกรรมการซื้อขายได้ภายในไตรมาส 3 ของปี 2558” นายภูมิภักดิ์ กล่าว