ผู้บริหาร อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ บริษัทย่อยของ “ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย” เผยโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย พม่า เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว และสามารถรับรู้รายได้ทันที
นายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติของบริษัท ขนาดกำลังการผลิต 6-20 เมกะวัตต์ ที่อำเภอกันบก จังหวัดทวาย รัฐทะนินทายี ประเทศพม่า ที่ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) อยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าซื้อหุ้น 100% ได้เดินเครื่องและจ่ายไฟเรียบร้อยแล้ว ตามสัญญาผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และการซื้อไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานราชการรัฐทะนินทายี (Tanintharyi Regional Government : “TRG”) และ “Andaman Power”
ทั้งนี้ บริษัทจัดสรรการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศพม่าออกเป็น 3 เฟส คือ เฟส 1 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแห่งนี้ การลงทุนเฟส 2 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 150-200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2559 ส่วนการลงทุนในเฟส 3 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขเกี่ยวกับปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่ทางบริษัทจะเจรจาทำความตกลงกับทางรัฐบาลพม่า ในปี 2560
นายอุปกิต กล่าวต่อไปว่า โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเป็นโครงการแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone : DSEZ) ประเทศพม่า เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในประเทศพม่า ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ประเทศไทยในการลงทุนด้านธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้รัฐบาลพม่ามีโครงการจะสร้างโรงไฟฟ้าอีกกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาค และแหล่งลงทุนใหม่ที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย (Dawei Deep Sea Port) ที่เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลพม่า
นายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติของบริษัท ขนาดกำลังการผลิต 6-20 เมกะวัตต์ ที่อำเภอกันบก จังหวัดทวาย รัฐทะนินทายี ประเทศพม่า ที่ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) อยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าซื้อหุ้น 100% ได้เดินเครื่องและจ่ายไฟเรียบร้อยแล้ว ตามสัญญาผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และการซื้อไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานราชการรัฐทะนินทายี (Tanintharyi Regional Government : “TRG”) และ “Andaman Power”
ทั้งนี้ บริษัทจัดสรรการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศพม่าออกเป็น 3 เฟส คือ เฟส 1 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแห่งนี้ การลงทุนเฟส 2 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 150-200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2559 ส่วนการลงทุนในเฟส 3 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขเกี่ยวกับปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่ทางบริษัทจะเจรจาทำความตกลงกับทางรัฐบาลพม่า ในปี 2560
นายอุปกิต กล่าวต่อไปว่า โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเป็นโครงการแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone : DSEZ) ประเทศพม่า เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในประเทศพม่า ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ประเทศไทยในการลงทุนด้านธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้รัฐบาลพม่ามีโครงการจะสร้างโรงไฟฟ้าอีกกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาค และแหล่งลงทุนใหม่ที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย (Dawei Deep Sea Port) ที่เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลพม่า