ศาลฎีกามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก “กาญจนา เหล่าตระกูล” เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ฐานเป็นผู้ให้การสนับสนุน นุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรณีบริหารงานโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ กระทำการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบจาก บล.ซีมิโก้
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ นายนุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตกรรมการ บล.ซีมิโก้ กรณีแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยดำเนินการให้บริษัทลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งในราคาหุ้นละไม่เกิน 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดของหุ้นดังกล่าวในขณะนั้นเป็นอย่างมาก และต่อมา นายนุประพัทธ์ ได้มอบหมายให้นางกาญจนา อดีตผู้อำนวยการฝ่าย บล.ซีมิโก้ ซื้อหุ้นบริษัทเดียวกันนั้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบัญชีของบุคคลอื่น จำนวน 172,400 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.30-8.50 บาท และนำหุ้นดังกล่าวมาขายต่อให้แก่ บล.ซีมิโก้ ในราคาหุ้นละ 19.75 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาตลาดที่บุคคลทั่วไปซื้อขายกัน โดยอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง และเป็นโจทก์ฟ้องนายนุประพัทธ์ และนางกาญจนาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า นายนุประพัทธ์ และนางกาญจนา กระทำความผิด ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า นางกาญจนา มีความผิดตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ลงโทษจำคุก 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีนายนุประพัทธ์ ออกจากสารบบความเนื่องจากถึงแก่กรรม
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ นายนุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตกรรมการ บล.ซีมิโก้ กรณีแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยดำเนินการให้บริษัทลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งในราคาหุ้นละไม่เกิน 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดของหุ้นดังกล่าวในขณะนั้นเป็นอย่างมาก และต่อมา นายนุประพัทธ์ ได้มอบหมายให้นางกาญจนา อดีตผู้อำนวยการฝ่าย บล.ซีมิโก้ ซื้อหุ้นบริษัทเดียวกันนั้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบัญชีของบุคคลอื่น จำนวน 172,400 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.30-8.50 บาท และนำหุ้นดังกล่าวมาขายต่อให้แก่ บล.ซีมิโก้ ในราคาหุ้นละ 19.75 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาตลาดที่บุคคลทั่วไปซื้อขายกัน โดยอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง และเป็นโจทก์ฟ้องนายนุประพัทธ์ และนางกาญจนาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า นายนุประพัทธ์ และนางกาญจนา กระทำความผิด ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า นางกาญจนา มีความผิดตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ลงโทษจำคุก 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีนายนุประพัทธ์ ออกจากสารบบความเนื่องจากถึงแก่กรรม