ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คุมประพฤติภูเก็ต ดึงภาคประชาชนร่วมเป็นอาสาสมัครฯ เพิ่มเติม รองรับภารกิจของกระทรวงยุติธรรม ในการช่วยเหลือดูแลผู้กระทำผิดในชุมชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่โรงแรมคาทีน่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต มีนายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางสมทรง ประสานสม รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติภาคประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วม
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เพิ่มเติมในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายเข้ามาเป็นเครือข่าย เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงยุติธรรม ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน และอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในชุมชนได้อย่างทั่วถึง และเป็นตัวคูณ เชื่อมโยงระหว่างภาครัฐกับชุมชนให้เข้ามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสังคม เชื่อว่าผู้ผ่านการอบรมจะสามารถเข้าใจในบทบาท และปฏิบัติหน้าที่การเป็นอาสาสมัครฯ ได้อย่างมีคุณภาพ สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ เพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม และที่สำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สามารถแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายปรัชญา ชัยวรานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสภาวะสังคมปัจจุบัน พบว่า มีผู้กระทำผิดกฎหมายถูกจับกุมดำเนินคดี และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจำนวนมาก ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกไปจำนวนหนึ่ง จนเกิดปัญหานักโทษล้นเรือนจำ และอีกส่วนหนึ่งศาลได้ลงโทษจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้ และใช้มาตรการคุมความประพฤติ แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนซึ่งมีปริมาณมาก เกินกว่าอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดมา ในขณะนี้มีผู้กระทำผิดที่อยู่ระหว่างการดูแลช่วยเหลือ และแก้ไขฟื้นฟูในชุมชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต จำนวน 1,679 คน
กรมคุมประพฤติ เข้ามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน และมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อสังคมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 และในส่วนสำนักงานคุมประพฤติฯ ได้ดำเนินการสรรหา และแต่งตั้งบุคคลเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติ ปฏิบัติงานช่วยเหลือสำนักงานคุมประพฤติจนถึงปัจจุบัน มีอาสาสมัครคุมประพฤติ จำนวน 142 คน ซึ่งยังมีจำนวนน้อยไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือดูแลผู้กระทำผิดในชุมชน ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายให้การคุมประพฤติ สรรหาบุคคลเข้ารับการอบรม และแต่งตั้งเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติให้ครบทุกตำบล เพื่อให้อาสาสมัครคุมประพฤติได้ช่วยสนับสนุนภารกิจของกระทรวงติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
จากนโยบายดังกล่าว สำนักงานคุมประพฤติฯ เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ขึ้นในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ เข้าใจในบทบาท และปฏิบัติหน้าที่การเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคมได้อีกช่องทางหนึ่ง
การจัดการอบรมในครั้งนี้ มีกำหนดหลักสูตร 2 วัน ภายใต้หัวข้อวิชาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และภารกิจของกรมคุมประพฤติ รวมถึงบทบาทของอาสาสมัครคุมประพฤติ ต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่โรงแรมคาทีน่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต มีนายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางสมทรง ประสานสม รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติภาคประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วม
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เพิ่มเติมในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายเข้ามาเป็นเครือข่าย เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงยุติธรรม ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน และอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในชุมชนได้อย่างทั่วถึง และเป็นตัวคูณ เชื่อมโยงระหว่างภาครัฐกับชุมชนให้เข้ามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสังคม เชื่อว่าผู้ผ่านการอบรมจะสามารถเข้าใจในบทบาท และปฏิบัติหน้าที่การเป็นอาสาสมัครฯ ได้อย่างมีคุณภาพ สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ เพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม และที่สำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สามารถแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายปรัชญา ชัยวรานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสภาวะสังคมปัจจุบัน พบว่า มีผู้กระทำผิดกฎหมายถูกจับกุมดำเนินคดี และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจำนวนมาก ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกไปจำนวนหนึ่ง จนเกิดปัญหานักโทษล้นเรือนจำ และอีกส่วนหนึ่งศาลได้ลงโทษจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้ และใช้มาตรการคุมความประพฤติ แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนซึ่งมีปริมาณมาก เกินกว่าอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดมา ในขณะนี้มีผู้กระทำผิดที่อยู่ระหว่างการดูแลช่วยเหลือ และแก้ไขฟื้นฟูในชุมชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต จำนวน 1,679 คน
กรมคุมประพฤติ เข้ามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน และมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อสังคมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 และในส่วนสำนักงานคุมประพฤติฯ ได้ดำเนินการสรรหา และแต่งตั้งบุคคลเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติ ปฏิบัติงานช่วยเหลือสำนักงานคุมประพฤติจนถึงปัจจุบัน มีอาสาสมัครคุมประพฤติ จำนวน 142 คน ซึ่งยังมีจำนวนน้อยไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือดูแลผู้กระทำผิดในชุมชน ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายให้การคุมประพฤติ สรรหาบุคคลเข้ารับการอบรม และแต่งตั้งเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติให้ครบทุกตำบล เพื่อให้อาสาสมัครคุมประพฤติได้ช่วยสนับสนุนภารกิจของกระทรวงติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
จากนโยบายดังกล่าว สำนักงานคุมประพฤติฯ เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ขึ้นในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ เข้าใจในบทบาท และปฏิบัติหน้าที่การเป็นอาสาสมัครคุมประพฤติได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคมได้อีกช่องทางหนึ่ง
การจัดการอบรมในครั้งนี้ มีกำหนดหลักสูตร 2 วัน ภายใต้หัวข้อวิชาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และภารกิจของกรมคุมประพฤติ รวมถึงบทบาทของอาสาสมัครคุมประพฤติ ต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม
