xs
xsm
sm
md
lg

เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เซ็น “พรีโม่ เอ็นเนอร์จี” พัฒนา Solar Farm ขนาด 30 MW ในญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ คว้า “พรีโม่ เอ็นเนอร์จี” เป็นลูกค้ารายใหม่ เซ็นสัญญาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 MW ในประเทศญี่ปุ่น มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท หนุนงานเทิร์นคีย์ในมือทะลุ 5,000 ล้านบาท “อนาวิล จิรธรรมศิริ” เผยพร้อมรับงานลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งพัฒนาโครงการแบบเทิร์นคีย์ และ EPC ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ ระบุตลาดญี่ปุ่นยังมีศักยภาพ โอกาสเติบโตทางธุรกิจยังมีอีกมาก ด้าน “อุกฤษฏ์ ตัณฑเสถียร” ผู้บริหารพรีโม่ เอ็นเนอร์จี เผย Solar Farm ขนาด 30 MW เป็นเพียงเฟสแรก ยังพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด หรือ CE บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงานในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนการขยายธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ว่า บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ในประเทศญี่ปุ่นให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่อีก 1 บริษัท คือ บริษัท พรีโม่ เอ็นเนอร์จี จำกัด กำลังการผลิตรวมขนาด 30 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

“โครงการที่พัฒนาให้แก่ “พรีโม่ เอ็นเนอร์จี” เป็นลักษณะเทิร์นตีย์ (Turnkey - โครงการที่พัฒนาจนแล้วเสร็จในสภาพพร้อมใช้งานแล้วจึงส่งมอบแก่ผู้ซื้อ) คือ พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า พร้อมใบอนุญาต และจัดโครงสร้างการลงทุนพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้แก่เจ้าของโครงการผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทย่อย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ทันทีหลังจากนี้”

นายอนาวิล กล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดด้านพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนด้วยการรับซื้อไฟในระบบให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed in Tariff) หรือ FiT จึงทำให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทฯ พร้อมจะพัฒนาโครงการให้สอดคล้องต่อทุกความต้องการของลูกค้า โดยใช้ความได้เปรียบด้านการบริหารจัดการอย่างผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ทำให้สามารถพัฒนาโครงการคุณภาพได้ในต้นทุนที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน “พรีเมียร์ โซลูชั่น” ได้พัฒนาโครงการให้แก่พันธมิตรทั้งสิ้น 150 เมกะวัตต์

นายอุกฤษฏ์ ตัณฑเสถียร กรรมการบริหาร บริษัท พรีโม่ เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่นถือว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากภาครัฐให้การสนับสนุน ในขณะเดียวกัน เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จากการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ บริษัทฯ จึงสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยมอบหมายให้กลุ่ม CHOW เป็นผู้พัฒนาโครงการ เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นอย่างดี ซึ่งโครงการแรกนี้คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2016 เป็นต้นไป นอกจากนั้น หลังจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในเฟสต่อไปหากได้โครงการที่เหมาะสม สอดคล้องต่อแผนการลงทุนของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น