xs
xsm
sm
md
lg

“รพี” ดับฝัน SME ทุบกระดานทิ้ง!!! จ่อดันคลาวด์ ฟันดิ้ง&เวนเจอร์ แคป เสียบแทน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
“รพี สุจริตกุล” เลขาธิการ ก.ล.ต. คนใหม่เผยเตรียม “โล๊ะทิ้งโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด” เผยที่ผ่านมา เสียเวลาปั้นนาน เห็นผลช้าและเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก เข้าระดมทุนน้อยซ้ำยังตกเป็นเครื่องมือของนักปั่นหุ้น แย้มกลยุทธ์เตรียมดัน คลาวด์ ฟันดิ้ง และเวนเจอร์ แคป เป็นเทรนผลิตภัณฑ์ในการลงทุนแบบใหม่ คาดสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ได้ภายในปีนี้ พร้อมยอมรับสภาพเป็น “เสือกระดาษ” ไร้อำนาจลงโทษผู้กระทำผิด


นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวถึงแผนงานในการดำเนินงานของ ก.ล.ต. ในปีนี้ว่า ขณะนี้อยู่ที่ในช่วงขอการศึกษาข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนของไทยทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมา ภาพรวมการลงทุนของไทยประสบปัญหาจากทั้งการเมืองภายในประเทศ และปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งเตรียมจะได้เข้าหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการกำหนดกฎเกณฑ์ข้อบังคับ และเพื่อป้องกัน และแก้ปัญหา ตลอดจนถึงการเอาผิดต่อทั้งนักลงทุน และบริษัทจดทะเบียนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยการใช้ข้อมูลภายในสร้างราคาหุ้น และการสร้างกระแสปั่นหุ้นให้มีความร้อนแรงผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย ทำให้ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยลดลง อีกทั้งนักลงทุนรายใหม่ในประเทศไทยที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนของนักลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งหากสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนต่อนักลงทุนได้ ก็คาดว่าจะมีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาเปิดบัญชีหลักทรัพย์เป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากที่มีอยู่กว่า 1 ล้านบัญชีในปัจจุบัน แต่มีบัญชีเคลื่อนไหวอยู่เพียง 1 แสนกว่าบัญชีเท่านั้น

“ขณะที่ในส่วนของ “โครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด” นั้นที่เคยได้ทำมาในสมัยก่อนหน้านี้ อาจจะต้องยกเลิกไปเนื่องจากการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ SME เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์ข้อบังคับของทาง ก.ล.ต.จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี และ SME ที่แปรสภาพมาเป็นบริษัทนั้น ยังไม่มีความพร้อมมากพอเนื่องจากส่วนใหญ่ยังเป็นในรูปแบบกงสี และห้างหุ้นส่วน ทำให้ไม่สามารถจัดทำระบบบัญชีตามแบบสากลได้ อีกทั้งบริษัทฯ เหล่านั้นส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งต้องการระดมทุนในตลาดเพียง 200-300 ล้านเท่านั้น และยังเป็นเครื่องมือปั่นหุ้นของนักลงทุนบางกลุ่มอีกด้วย”

แต่ทั้งนี้ ทาง ก.ล.ต.ก็ไม่ได้ตัดโอกาสในการแสวงหาการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่ม SME เหล่านี้ แต่จะเปลี่ยนแนวทางโดยให้การสนับสนุนด้านสินค้า และบริการ ตลอดจนถึงส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะ GMS Conector เพื่อเป็นการสร้างพันธมิตร และให้ผู้ประกอบการสำรวจความต้องการของตลาด และช่องการการระดมทุนประเภทอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งทุนเพิ่มมากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทาง ก.ล.ต. จะเร่งผลักดันต่อจากนี้ คือ Venture capital คลาวด์ ฟันดิ้ง และ Private Equity fund เนื่องจากเป็นโอกาสในการแสวงหาแหล่งทุนของผู้ประกอบการ เนื่องจากสามารถร่วมระดมทุนได้ในหลายช่องทางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนถึงการร่วมลงทุนกันระหว่างประเทศ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า และให้ผลที่ชัดเจนกว่า อีกทั้งยังไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยอีกด้วย

นอกจากนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการปรับปรุงเกณฑ์ขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ที่มีปัญหากระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม โดยเฉพาะการประกาศขายออกมาในราคาที่ต่ำเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้าไปซื้อ โดยทาง ก.ล.ต.เตรียมที่จะหารือกับ ตลท.เพื่อหาทางอุดช่องว่าง และกำหนดกฏไม่ให้กระทบต่อผู้ถือหุ้นอื่นๆ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ ก่อนที่จะทำประชาพิจารณ์ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.จะมีการปรับโครงสร้างภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดความซ้ำซ้อนของบางหน่วยงานลง โดยคาดจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน

ขณะที่ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเองนั้น อาจจะต้องมีการพิจารณาตัวเองใหม่เนื่องจากการทำงานระหว่างกันของทั้ง SET และ mai มีลักษณะที่คาบเกี่ยวทับซ้อนกันมากเกินไป ต่างกันเพียงขนาดของบริษัทฯ ที่เข้าจดทะเบียนเท่านั้น โดย ตลท.ควรจะหาแนวทางในการเฝ้าระวังอย่างรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้น mai ที่มักมีการเก็งกำไรสร้างราคากันอย่างผิดปกติ อย่างมาก ซึ่งทำให้กระทบภาพลักษณ์การลงทุนในตลาดหุ้นทั้งระบบ และความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย

ทั้งนี้ ในส่วนของข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทาง ก.ล.ต. ยอมรับว่า เป็นแค่เพียงผู้กำกับดูแลแต่ไม่สามารถดำเนินการบางอย่างได้ อย่างเช่นกรณีของ NMG ที่มีผู้กล่าวว่า บทบาทไม่ต่างจาก “เสือกระดาษ” นั้น ก.ล.ต. ต้องยอมรับความจริงเนื่องจากไม่มีอำนาจในการตัดสินความผิด โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องเป็นไปตามกระบวนการในการรวบรวมหลักฐานส่งให้ DSI และ ศาลเป็นผู้ตัดสินเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น