“เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ DEMCO เพิ่งเซ็นสัญญาสัมปทาน 30 ปี ในโครงการน้ำประปาในประเทศลาว ซึ่งใช้เงินลงทุนรวม 800 ล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 โดยบริษัทคาดว่า COD จะอยู่ในไตรมาสที่ 4/58 โดยการลงทุนในช่วงเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับกำลังการผลิต 14,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หลังจากนั้น บริษัทจะขยายขนาดโครงการทุกๆ 3 ปี โดยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 7,200 ลูกบาศก์เมตร/วัน (ใช้เงินลงทุน 70 ล้านบาท) ดังนั้น กำลังการผลิตรวมตอนสิ้นโครงการจะเพิ่มขึ้นเป็น 43,200 ลูกบาศก์เมตร/วัน โดย DEMCO จะมีรายได้จากการให้บริการน้ำประปา 8.9 บาทต่อลูกบาศก์เมตร โครงการนี้จะช่วยเสริมกำไรให้ DEMCO ในอีก 10 ปีข้างหน้าที่มากกว่า 100 ล้านบาท/ปี ตลอดอายุสัญญาสัมปทานที่เหลืออยู่”
ขณะที่ยังมีรายได้ที่แน่นอนจาก backlog ของ EPC ที่เหลือประมาณ 6.1 พันล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม 2558 โดย DEMCO น่าจะมี backlog งาน EPC ในมือประมาณ 6.1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2558 ประมาณ 3.7 พันล้านบาท ในขณะที่อีก 2.4 พันล้านบาท จะรับรู้ในปี 2559 ในขณะที่บริษัทรับรู้รายได้จากงาน EPC 950 ล้านบาทไปแล้วในไตรมาสที่ 1/58 เราคิดว่า DEMCO มีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่า backlog จากสัญญา EPC ขนาดใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งได้แก่ (1) โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่ง (126 MW) ของ EA ซึ่งมีมูลค่างาน 2.0 พันล้านบาท และ (2) การที่รัฐบาลเปิดประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์รอบใหม่สำหรับบริษัทเอกชน กำลังการผลิตรวม 990 MW ซึ่งเราคาดว่าบริษัทจะได้งาน EPC ในส่วนนี้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลง 6-21% โดยเราได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ของ DEMCO ลง 21% เหลือ 590 ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก (1) อัตรากำไรที่ลดลงของงาน EPC ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ #4 (90 MW) ของ Energy Absolute Plc. (EA) จาก 10% เหลือแค่ 6% และ (2) การปรับลดประมาณการรายได้ปี 2558 ลงจากประมาณการเดิม 13% เหลือ 7.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่งาน EPC ของโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 2 แห่ง (มูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท) หดหายไป เพราะ กฟผ. เลื่อนโครงการออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาเรื่องสายส่งไฟฟ้าไม่เพียงพอในพื้นที่ที่โครงการตั้งอยู่
อนึ่ง เรายังได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 ลง 6% เหลือ 784 ล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อ (60 MW) จากไตรมาสที่ 1/59 ไปเป็นไตรมาสที่ 3/59 ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ารายได้ปี 2559 จะลดลง 6% เหลือ 7.7 พันล้านบาท
โดยที่ บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.10 บาทเนื่องจากยังรอข่าวดีเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ WEH อยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคม 2558 แต่อย่างไรก็ตาม เราได้ปรับลดราคาเป้าหมายของ DEMCO ลงจาก 18.60 บาท เหลือ 17.10 บาท เพื่อสะท้อนถึงผลของการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ และการที่งาน EPC ของโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 2 แห่ง (แห่งละ 8MW) หดหายไป ขณะที่เราได้เพิ่มมูลค่าของโครงการน้ำประปาในลาวเต็ม 1.2 บาท เข้าไปในการประเมินมูลค่าหุ้น จากเดิมที่เราใส่มูลค่าเอาไว้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ในส่วนของการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ WEH ถ้าหากดีลนี้ไม่ประสบความสำเร็จก็หมายความว่า มีความเสี่ยงที่โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของ WEH 5 โครงการ (กำลังการผลิตรวม 450 MW) อาจจะถูกยกเลิก ซึ่งจะทำให้เราต้องปรับลดราคาเป้าหมายลงอีก 1.70 บาทเหลือ 15.40 บาท