“เด็มโก้” รอปิดดีลกับ กฟผ.มูลค่า 2.1 พันล้าน “เอ็มดี” มั่นใจ ผลดำเนินงานปี 58 โกยรายได้-กำไรทุบสถิติสูงสุดในประวัติการณ์
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 58 คาดว่ารายได้และกำไรจะปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ประกาศงบลงทุน 5 ปี มากกว่า 120,000 ล้านบาท
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานกับ กฟผ.มูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท และมั่นใจที่จะเข้ารับงานส่วนเพิ่มจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ตามประกาศของ กระทรวงพลังงาน 1,445 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนมากกว่า 86,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน DEMCO จะรับรู้รายได้จากการถือหุ้น 15% ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2, 3 รวมทั้งโครงการโซลาร์และโซลาร์รูฟ จำนวน 3 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินปันผลในปี 58 จำนวนรวม 195 ล้านบาท
อีกทั้งในปีนี้ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 6,300 ล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานใหม่และคาดว่าจะได้รับในปีนี้ โดยในส่วนของงานวิศวกรรมไฟฟ้าของภาครัฐบาลและเอกชน คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 3,000 ล้านบาท เป็นงานที่จะต้องดำเนินการทั้งสิ้น 9,300 ล้านบาท โดยยังไม่รวมงานโซลาร์ฟาร์ม 1,445 เมกะวัตต์ ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับงานอีก 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือว่าเป็น up side ในอนาคต
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 58 จากนโยบายภาครัฐซึ่งสนับสนุนให้มีการลงทุนในพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์ฟาร์ม 1,445 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ เด็มโก้กำลังศึกษาที่จะเข้าลงทุนในโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าขยะรวม 100-200 เมกะวัตต์ ในระยะเวลา 2 ปี
โดยในปี 58 คาดว่าจะมีการลงทุนประมาณ 70 เมกะวัตต์จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 16 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์ม 50 เมกะวัตต์ ซึ่งจากแผนลงทุนนี้จะทำให้บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 100 เมกะวัตต์ ในปี 58 และจะเพิ่มขึ้นอีก 80-100 เมกะวัตต์ ในปี 59
อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตนี้ บริษัทเห็นว่าไม่ต้องมีการเพิ่มทุน เนื่องจากโครงสร้างเงินทุนที่ประกอบด้วย Demco-W5, Demco-W6, ESOP, PP จำนวนรวม 2,000 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทสามารถกู้เงินราว 6,000-8,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีศักยภาพในอนาคตที่จะลงทุนในธุรกิจ 8,000-10,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัท เด็มโก้ เดอร์ ลาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DEMCO อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการระบบสาธารณูปโภคใน สปป.ลาว โดยการลงนามสัญญาเลื่อนเป็นเดือนมีนาคม 2558 เนื่องจาก สปป.ลาว ได้ลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษาทางด้านก่อสร้างและด้านเทคนิคไปเมื่อกลางเดือน กุมภาพันธ์
นอกจากนี้ ยังรวมถึงจะต้องนำรายละเอียดการแต่งตั้งที่ปรึกษามาประกอบการขออนุมัติสัญญา ทำให้กระบวนการลงนามสัญญาสัมปทานล่าช้าเล็กน้อย สำหรับโครงการดังกล่าวมีมูลค่าลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดเตรียมสัญญาแล้ว
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 58 คาดว่ารายได้และกำไรจะปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ประกาศงบลงทุน 5 ปี มากกว่า 120,000 ล้านบาท
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานกับ กฟผ.มูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท และมั่นใจที่จะเข้ารับงานส่วนเพิ่มจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ตามประกาศของ กระทรวงพลังงาน 1,445 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนมากกว่า 86,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน DEMCO จะรับรู้รายได้จากการถือหุ้น 15% ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2, 3 รวมทั้งโครงการโซลาร์และโซลาร์รูฟ จำนวน 3 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินปันผลในปี 58 จำนวนรวม 195 ล้านบาท
อีกทั้งในปีนี้ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 6,300 ล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานใหม่และคาดว่าจะได้รับในปีนี้ โดยในส่วนของงานวิศวกรรมไฟฟ้าของภาครัฐบาลและเอกชน คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 3,000 ล้านบาท เป็นงานที่จะต้องดำเนินการทั้งสิ้น 9,300 ล้านบาท โดยยังไม่รวมงานโซลาร์ฟาร์ม 1,445 เมกะวัตต์ ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับงานอีก 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือว่าเป็น up side ในอนาคต
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 58 จากนโยบายภาครัฐซึ่งสนับสนุนให้มีการลงทุนในพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์ฟาร์ม 1,445 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ เด็มโก้กำลังศึกษาที่จะเข้าลงทุนในโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าขยะรวม 100-200 เมกะวัตต์ ในระยะเวลา 2 ปี
โดยในปี 58 คาดว่าจะมีการลงทุนประมาณ 70 เมกะวัตต์จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 16 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์ม 50 เมกะวัตต์ ซึ่งจากแผนลงทุนนี้จะทำให้บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 100 เมกะวัตต์ ในปี 58 และจะเพิ่มขึ้นอีก 80-100 เมกะวัตต์ ในปี 59
อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตนี้ บริษัทเห็นว่าไม่ต้องมีการเพิ่มทุน เนื่องจากโครงสร้างเงินทุนที่ประกอบด้วย Demco-W5, Demco-W6, ESOP, PP จำนวนรวม 2,000 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทสามารถกู้เงินราว 6,000-8,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีศักยภาพในอนาคตที่จะลงทุนในธุรกิจ 8,000-10,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัท เด็มโก้ เดอร์ ลาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DEMCO อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการระบบสาธารณูปโภคใน สปป.ลาว โดยการลงนามสัญญาเลื่อนเป็นเดือนมีนาคม 2558 เนื่องจาก สปป.ลาว ได้ลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษาทางด้านก่อสร้างและด้านเทคนิคไปเมื่อกลางเดือน กุมภาพันธ์
นอกจากนี้ ยังรวมถึงจะต้องนำรายละเอียดการแต่งตั้งที่ปรึกษามาประกอบการขออนุมัติสัญญา ทำให้กระบวนการลงนามสัญญาสัมปทานล่าช้าเล็กน้อย สำหรับโครงการดังกล่าวมีมูลค่าลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดเตรียมสัญญาแล้ว