ผู้ถือหุ้น “ไทยโพลีคอนส์” ไฟเขียวเพิ่มทุน 188.96 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขาย 4 บาทต่อหุ้น พร้อมแจกวอร์แรนต์ฟรี 1 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 2 วอร์แรนต์ หวังเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่สถานะเงินทุน เตรียมพร้อมขยายงานงานภาครัฐ-เอกชน ด้านผู้บริหาร “ไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี” มั่นใจ ปี 58 พร้อมกลับมาเทิร์นอะราวนด์ คาดมีงานในมือ 4,000-6,000 ล้านบาทในปีนี้ ไม่นับรวมงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลให้แก่บริษัทลูก TPCH อีก 3 โครงการ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
นายไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุน 188,964,135 หุ้น โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 62,988,045 หุ้น ในอัตราส่วน 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อ 4.00 บาทต่อหุ้น และอีก 125,976,090 หุ้น ใช้รองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 จำนวน 125,976,090 หน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 1 หุ้นเพิ่มทุน : 2 หลักทรัพย์แปลงสภาพ ราคาเสนอขาย 0.00 บาทต่อหน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ออก และเสนอขายวอร์แรนต์
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) ในวันที่ 4 มิ.ย.2558 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 5 มิ.ย.2558 ซึ่งวันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) ในวันที่ 2 มิ.ย.2558
“การเพิ่มทุนในครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างฐานเงินทุนให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าประมูลงานก่อสร้างภาครัฐ และภาคเอกชน ที่คาดว่าจะมีงานเพิ่มมากขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ” นายไชยณรงค์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2558 นายไชยณรงค์ กล่าวว่า มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาเทิร์นอะราวนด์ได้อย่างแน่นอน โดยในส่วนของงานรับเหมาโครงการปีนี้คาดว่าจะมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมงานรับเหมาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท
“แนวโน้มรายได้ และกำไรในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวมประมาณ 2,500 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากปัญหาการเมือง ทำให้ภาครัฐ และเอกชนชะลอการลงทุน" นายไชยณรงค์ กล่าวในที่สุด
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ย่านถนนหทัยราษฎร์ มูลค่าโครงการประมาณ 390 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ยังมีอยู่มาก และการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งติดต่อกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งในส่วนของซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อลงทุนได้เป็นอย่างดี