xs
xsm
sm
md
lg

“อนันดา” เจ๋งคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าขายกระฉูด มิตซุยฯ ติดใจลงทุนต่อ 5 โครงการ มูลค่า 1.9 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชานนท์ เรืองกฤตยา
“มิตชุย ฟูโดซัง” ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ญี่ปุ่น มั่นใจตลาดอสังหาฯ ไทยบวกกับผลงานการลงทุนของ “อนันดา” ร่วมลงทุนเพิ่มอีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 19,000 ล้าน เผยเตรียมงบ 155,000 ล้านบาท ลงทุนทั่วโลกภายใน 3 ปี ด้าน “บอสใหญ่อนันดา” ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอ เชื่อคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้ายังโตได้ เผยยอดขาย 4 เดือนทะลุ 10,000 ล้านบาท

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในประเทศไทยกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) ในปี 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia) โดยพัฒนาไปแล้ว 4 โครงการ จำนวนกว่า 4,100 ยูนิต มูลค่าโครงการร่วม 26,000 ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถปิดการขายได้ทุกโครงการภายใน 2 ปี

ทำให้ในปี 2558 มิตซุย ฟูโดซัง ร่วมลงทุนกับอนันดาต่อเนื่องอีกครั้ง ภายใต้บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia) โดย อนันดาฯ จะถือครองหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มมิตซุย 49% และนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นสัดส่วน 2% ที่เหลือ ซึ่งอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมกันระหว่าง มิตซุย ฟูโดซังฯ และอนันดาฯ ฝ่ายละ 3 ท่าน มาร่วมกันตัดสินใจ และอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ

สำหรับแผนการดำเนินงานภายใต้การร่วมทุนครั้งใหม่นี้ มีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ จำนวน 4,500 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 19,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Hi-rise สูง 40 ชั้น ใกล้สถานีบีทีเอสชิดลม 650 เมตร จำนวน 359 ยูนิต ระดับราคา 1.6-1.7 แสนบาท/ตารางเมตร โดยจะเปิด Pre-sales ในไตรมาสที่ 2-ต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดอีก 4 โครงการ 4 ทำเล ได้แก่ โครงการในย่านสีลม ห่างจาก BTS สถานีช่องนนทรี เพียง 250 เมตร ระดับราคาขายประมาณ 2-2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท เปิดขายในช่วงไตรมาส 3-4 โครงการคอนโดฯ ติด BTS บางนา มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท

โครงการย่านบางซื่อ ติด MRT เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท เปิดขายช่วงไตรมาส 3-4 และโครงการย่านท่าพระ ติด MRT ท่าพระ ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 1 ปีหน้า

“การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งใหม่นี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่อนันดาฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง มิตซุย ฟูโดซัง มาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทางธุรกิจ และจากการร่วมทุนที่ผ่านมา ทำให้การขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัทมีศักยภาพ และแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ และการบริหารจัดการโครงการของมิตซุยฯ ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ที่ได้นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าของอนันดาฯ ด้วยจุดแข็งดังกล่าวของมิตซุย ฟูโดซัง จึงมั่นใจว่าจะช่วยส่งเสริมให้อนันดาฯ ก้าวสู่มาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับสากลมากยิ่งขึ้นตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน” นายชานนท์ กล่าว

นายชานนท์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดยังพบว่า ยอดขายในช่วงไตรมาส 1 สามารถเติบโตได้ พิจารณาได้จากยอดขายของบริษัท 3 เดือนกว่า 9,000 ล้านบาท และ 4 เดือนเกินกว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% จากไตรมาส 1/57 ที่มียอดขาย 2,300 สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากที่ดินหายาก และมีราคาแพง ทำให้บริษัทกล้าที่จะลงทุน

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอรับรูรายได้ราว 34,000 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ (รวมบริษัทร่วมทุน) 10-12 โครงการมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท

มร. อะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ Executive Managing Officer บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด กล่าวว่า จากความร่วมมือตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั้งปัจจุบัน จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 45,000 ล้านบาท บริษัทได้ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอนันดาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญ และศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่น การเลือกซื้อที่ดิน รวมถึงคุณภาพการออกแบบ รวมถึงการตลาด

ด้วยหลักสำคัญในการบริหารงานของกลุ่มมิตซุย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมองหาโอกาสสำหรับการตอบรับกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ และมีความแข็งแกร่งอย่าง อนันดาฯ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องต่อแนวคิดในการมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับลูกค้าเพื่อสร้างศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันและอนาคต ยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มมิตซุยฯ ไปสู่ภูมิภาคข้างเคียง โดยภายในปี 2558-2560 มิตซุย วางงบประมาณสำหรับการลงทุนในต่างประเทศประมาณ 1.55 แสนล้านบาท

“ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และด้วยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมีแผนขยายการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ในกรุงเทพจาก 67 สถานีที่มีอยู่ เป็น 222 สถานีในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรอบสถานีใหม่เกิดขึ้น และด้วยแนวโน้มของการพัฒนาเมืองที่ขยายตัวออกไปส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มมิตซุยมองเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวนี้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในประเทศไทยกับทางอนันดาฯอีกต่อไปในอนาคต” มร. ฟูนาโอกะ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น