“GPSC” เปิดตลาดซื้อขายวันแรกสร้างความตกตะลึงต่อนักลงทุนอย่างมาก เมื่อราคาซื้อขายหุ้นทันทีที่เปิดตลาด ราคาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 26.25 บาท/หุ้น จากราคา IPO ที่ 27.00 บาท/หุ้น ผู้บริหารเผยราคาหุ้นที่ต่ำกว่าจอง คาดมาจากสถานการณ์ความผันผวนของตลาด พร้อมโปรยยาหอมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนมีมูลค่างานในมือเพียบ ทั้งพม่า และญี่ปุ่น อีกทั้งมีบริษัทแม่หนุนหลัง ตั้งเป้าโตปีนี้ไม่น้อยกว่า 17% และจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไร
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า การเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกของ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดที่ระดับ 26.25 บาท/หุ้น จากราคา IPO ที่ 27.00 บาท/หุ้น
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าในการเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าของภูมิภาคเอเซีย เพื่อให้มีความเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อระดมทุนในการขยายกิจการต่างๆ ของบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวอีกด้วย
“บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการผลิตพลังงานไฟฟ้าครอบคลุมที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แต่อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหุ้นที่ซื้อขายเปิดมาต่ำกว่าจองนั้น คาดว่าส่วนหนึ่งนักลงทุนกังวลต่อภาวะตลาด และนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าราคาหุ้นสูงเกินไป ซึ่งส่วนตัวตนอยากให้นักลงทุนมองถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต และผลตอบแทนที่จะได้รับ ซึ่งมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ”
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีเป้าหมายระยะสั้นที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมในปัจจุบันเป็นไม่น้อยกว่า 600-1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2562 โดยจะเน้นการเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชัน โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในอนาคต ในขณะนี้บริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนโซลาฟาร์มในญี่ปุ่นประมาณ 100 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน ก็เตรียมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าในประเทศพม่า มูลค่าโครงการหลายแสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าวหลายราย ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสรุปความคืบหน้าโครงการดังกล่าวได้ภายในเร็วๆ นี้
