โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ แกนหลักด้านธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 18 พ.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 40,454 ล้านบาท
ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC บริษัทร่วมที่เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. (PTT Group’s Power Flagship) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 โดย GPSC ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รวมทั้งลูกค้าอุตสาหกรรมในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจในลักษณะการเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ เช่น ผลิตน้ำเย็น และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 1,315 เมกะวัตต์ และที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 536 เมกะวัตต์
โดย GPSC มีทุนชำระแล้ว 14,983.01 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,123.73 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 374.58 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัท 8.72 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 18.00 บาท เมื่อวันที่ 8 และ 11 พฤษภาคม 2558 และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 27.00 บาท เมื่อวันที่ 8 และ 11-12 พฤษภาคม 2558 มีมูลค่าระดมทุนรวม 10,035.06 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 40,454 ล้านบาท และมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้แก่บริษัท โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของ GPSC ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญของบริษัทของคนไทยในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และช่วยส่งเสริมการลงทุนแบบครบวงจรของกลุ่ม ปตท. พร้อมก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งตระหนักถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น และ Stakeholder เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ GPSC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ถือหุ้นรวม 75% (บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล 22.73% บมจ.ปตท. 22.57% กลุ่ม บมจ.ไทยออยล์ 29.70%) นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ถือหุ้น 0.53% และ น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้น 0.47% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งนี้ทำโดยวิธี book building คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 20.08 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 เมษายน 2557-31 มีนาคม 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.34 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิของงบการเงินของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด