ผู้ถือหุ้นโรงพิมพ์ตะวันออก อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 57 เป็นเงิน 0.32 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นกว่า 89.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านผู้บริหาร “ยุทธ ชินสุภัคกุล” มั่นใจรายได้รวมปี 58 ขยายตัว 15% กำไรพุ่ง 25% เดินหน้าหาโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศให้ครบ 100 เมกะวัตต์ ก่อนดัน “บ่อพลอย โซลาร์” เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นในช่วงปลายปี
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงาน (ปี 2557 เพิ่ม) เป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 29 เม.ย. วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 30 เม.ย. และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 เม.ย. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พ.ค.2558
ทั้งนี้ รวมเป็นเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2557 ในอัตรา 0.32 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.151 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 89.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2557 สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมขยายตัว 15% กำไรสุทธิเติบโต 25% จากปี 2557 โดยในปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50% จากเดิม 37.5% เนื่องจากเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น
“ในปีนี้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกในประเทศญี่ปุ่น จะเปิดจ่ายไฟฟ้าได้ 8-12 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ทำให้ปีนี้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยประมาณ 16 เมกะวัตต์ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 30 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ และในปี 2559 จะเพิ่มเป็น 50-60 เมกะวัตต์” นายยุทธ กล่าว
นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ ฟาร์ม ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์ม ในญี่ปุ่น 6 โครงการ และยังคงมองหาลู่ทางการลงทุนเพิ่มเติมในลักษณะของการร่วมทุนภายในเงื่อนไข EPCO ต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ สำหรับเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เงินจากทุนของบริษัท 25% เงินกู้สถาบันการเงิน 75% ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนโซลาร์ รูฟ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมในการเช่าหลังคา และโกดังเตรียมพร้อมรองรับไว้แล้ว เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ
สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์ยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะยังสามารถมี EBITDA ปีละกว่า 150 ล้านบาท โดยล่าสุด EPCO จะได้รับงานพิมพ์เพิ่มเข้ามาอีก เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาสที่ 2 ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปลายปีนี้ โดยบ่อพลอย โซล่าร์ อยู่ระหว่างรอปิดงบการเงินในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ และเตรียมลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้มีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ