SC เปิดตัวคอนโดฯ หรู “ศาลาแดง วัน” ราคาขายตร.ม.ละ 3.1 แสนบาท 185 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4.7 พันล้าน มั่นใจกำลังซื้อเศรษฐีทั้งชาวไทย-ต่างชาติยังมีกำลังซื้อ เตรียมจัดโรดโชว์สิงคโปร์ ฮ่องกง ตั้งเป้ายอดขาย 50% ในปีนี้ มั่นใจรายได้ปี 13,900 ล้านบาท เผยทุนนอก 2 รายจีบร่วมทุนพัฒนาโครงการ
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า แม้ว่าในปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวดี แต่สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยระดับบนราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ยังสามารถเติบโตได้ดีกว่าทุกตลาด เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้มีรายได้สูง หรือเจ้าของกิจการ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากภาววะเศรษฐกิจชะลอตัว พิจารณาได้จากยอดขายบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ของบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 50%
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลพยายามออกมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน และกระตุ้นธุรกิจส่งออกให้ดีขึ้น เชื่อว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2558 รัฐบาลจะยังคงนโยบายเช่นนี้เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทยมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ควรจับตาดูภาวะของหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยอดปฏิเสธสินเชื่อ (Reject) ในกลุ่มตลาดบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 2% จาก 5% ในปี 2557 มาเป็น 7% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เพราะบ้านระดับราคาดังกล่าวมีสัดส่วนเพียง 4% ของพอร์ตเท่านั้น ในขณะที่บ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้มียอดปฏิเสธสินเชื่อเป็น 0%
ทั้งนี้ บริษัทฯ คงเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่งผลให้ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนในประเทศแถบเอเชีย จำนวน 2 ราย สนใจเข้ามาเจรจาเพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการกับบริษัทฯ โดยขณะนี้เป็นเพียงการเจรจาในเบื้องต้น จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
“แม้ว่าบริษัทจะมีศักภาพเพียงพอที่จะพัฒนาโครงการเองได้ แต่เมื่อมีกลุ่มทุนให้ความสนใจร่วมลงทุนด้วยในบางโปรเจกต์เราก็ไม่ปิดโอกาสที่จะมีเพื่อนเพิ่ม ถ้า 1+1 ได้เท่ากับ 3 หรือมากกว่า ก็น่าสนใจที่จะร่วมลงทุน ซึ่งขณะนี้เพิ่งจะเริ่มมีการพูดคุยในเบื้องต้นเท่านั้น”
สำหรับในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขายได้แล้ว 3,500 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกมียอดขาย 2,721 ล้านบาท โตขึ้น 132% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 ในจำนวนนี้เป็นยอดขายบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 900-1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนอีก 60% เป็นบ้าน และคอนโดมิเนียม ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ จำนวน 2,072 ล้านบาท โตขึ้น 33% และมีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท โตขึ้น 60% อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 13,900 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2557 และเป้าหมายยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 13,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน สำหรับงบซื้อที่ดินในปีนี้ตั้งไว้ที่ 5,200 ล้านบาท สูงกว่าปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ระดับ Super Luxury ชื่อโครงการ SALADAENG ONE มูลค่าโครงการ 4.7 พันล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลซอยศาลาแดง 1 ใกล้กับอาคารอื้อจื่อเหลียง โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ 3 งาน เป็นอาคารสูง 33 ชั้น จำนวน 185 ยูนิต มีขนาด 1-3 ห้องนอน พร้อมห้อง Duplex และห้องแบบ Penthouse กับอีก 2 Pool Villa ส่วนขนาดห้องมีพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ไปจนถึง 420 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 13-85 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการ 3.1 แสนบาท/ตร.ม. พร้อมเปิดขาย 23-24 พ.ค.นี้ ในงาน The Premier of SALADAENG ONE
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้จัด Privilege Preview โครงการศาลาแดง วัน ไปเมื่อวันที่ 27-29 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า สามารถทำยอดขายได้ 40 กว่ายูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท ทำให้คาดว่า ศาลาแดง วัน จะมียอดขายสูงกว่า 50% ภายในปีนี้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นไทยสัดส่วน 70% และต่างชาติ สัดส่วน 30% ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน
สำหรับซัปพลายที่มีราคาใกล้เคียงกับโครงการ “ศาลาแดง วัน” ในย่านศาลาแดง และใกล้เคียงมีซัปพลายน้อยมาก เพียง 3 โครงการเท่านั้น จำนวนไม่เกิน 500 ยูนิต รวมมูลค่าประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 3 มีแผนที่จะนำห้องชุดขนาด 2-3 ห้องนอน ในโครงการดังกล่าวไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ ด้านการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากผ่านการอนุมัติการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) แล้ว และคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปลายปี 2560