จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2558 กำไรสุทธิ 377 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง และทีวีดิจิตอล พร้อมเปิดนโยบายเชิงรุกพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มรายได้ในทุกช่องทาง รวมทั้งพัฒนาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในทีวีดิจิตอล
น.ส.บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ แกรมมี่พลิกกลับมาแสดงผลกำไรสุทธิ จำนวน 377 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 148 มีรายได้รวม 3,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการปรับยุทธศาสตร์ที่หันมามุ่งเน้นในธุรกิจหลัก และการจัดโครงสร้างธุรกิจทีวีดิจิตอลในช่วงที่ผ่านมา ด้านธุรกิจหลักของแกรมมี่ทั้งธุรกิจเพลง และทีวีดิจิตอล เป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีอนาคตสดใส และเติบโตในทิศทางที่ดี โดยธุรกิจเพลงมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายอัลบั้มที่ในไตรมาสนี้มีการออกอัลบั้มถึง 56 อัลบั้ม ส่วนคอนเสิร์ตก็ฟื้นตัวจากช่วงก่อนหน้า มีการจัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เช่น คอนเสิร์ตขนนกและดอกไม้ ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ รวมทั้งรายได้จาก YouTube Thailand ซึ่งเป็นช่องทางรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากปัจจุบันช่อง GMM Grammy Official ทาง YouTube Thailand ติดอันดับ 1 ของช่องที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวนสมาชิกเกือบ 5 ล้านราย
ส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอล ทั้งช่อง One และ GMM 25 ก็ได้รับกระแสตอบรับที่โดดเด่นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นละครหลังข่าวทางช่อง One เช่น เล่ห์รตี สื่อริษยา ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงด้านเรตติ้งที่ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มช่องทีวีดิจิตอล (ไม่รวมช่องแอนะล็อกเดิม) รายการเกมโชว์ และวาไรตีอื่นๆ เช่น รายการเกมแจกเก๋ง The Star 11 ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนช่อง GMM 25 ก็กำลังมาแรงจากรายการไลฟ์ไตล์วาไรตี อย่าง Club Friday Show รายการเกมวัดดวง เกมโชว์ในตำนานที่สนุกที่สุด ถูกนำกลับมาออกอากาศอีกครั้ง รวมถึงละครซีรีส์ อย่างคลับ ฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ ที่จะมาถึงซีซันที่ 6 ในเดือนเมษายนนี้ และหลังจากช่อง GMM 25 แถลงเปิดผังปี 2558 และแคมเปญเปิดช่อง GMM 25 ได้โตโยต้าอัลติส ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่อง GMM 25 ก็ได้รับความนิยม และมีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจ Home shopping ก็ยังมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะซบเซาของตลาดค้าปลีก โดยรายได้ในไตรมาส 1/2558 สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 71 และสร้างยอดขายเฉลี่ยรายวันเติบโตขึ้นกว่า 5 ล้านบาท ในปัจจุบันจากการปรับยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งเน้นในธุรกิจหลัก แกรมมี่เดินหน้าใช้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจเพลง โดยพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมการรับฟังเพลง รวมทั้งการขยายธุรกิจในส่วนของธุรกิจโชว์บิซ โดยจะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตใหญ่อีกหลายรายการ เช่น ในเดือนพฤษภาคม จะมี 2 คอนเสิร์ตใหญ่ ได้แก่ คอนเสิร์ต “10 ปี ATIME SHOWBIZ” ที่รวบรวมศิลปิน และแขกรับเชิญคับคั่งมาสร้างความประทับใจแก่ผู้ชม รวมทั้งคอนเสิร์ต “บอดี้สแลมสิบสาม” ที่จะรวบรวมเรื่องราว และประสบการณ์การทำงานทางดนตรีตลอด 13 ปี ของบอดี้สแลม มาแสดงให้ชม ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี
ส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอล บริษัทมุ่งพัฒนา และเติมเต็มคอนเทนต์ที่เข้มข้น มีคุณภาพ รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ชม โดยปัจจุบัน นอกจากแกรมมี่จะผลิตรายการเองโดยทีมงานระดับมืออาชีพแล้ว ยังจับมือกับพันธมิตรที่การันตีเรื่องฝีมือ และชื่อเสียงมาร่วมงาน เช่น การร่วมมือกับบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จํากัด นำรายการเจาะใจกลับมาออกอากาศทางช่อง One ทั้งนี้ เราหวังจะให้ช่องทีวีดิจิตอลของบริษัททั้ง 2 ช่อง เป็นช่องที่อยู่ในใจผู้ชมทุกเพศทุกวัย และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในทีวีดิจิตอลในเวลาอันรวดเร็ว
ด้านสถานะทางการเงินของแกรมมี่ยังคงแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity) อยู่ที่ 0.72 เท่า จะเป็นส่วนสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตแน่นอน