หุ้นไทยปิดบวก 12 จุด ทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้มูลค่าหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีความน่าสนใจในสายตาของนักลงทุน ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ และอาจผันผวนได้ในระหว่างทาง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 พ.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,510.51 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.81% มูลค่าการซื้อขาย 38,771.43 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,514.64 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,494.92 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับรีบาวนด์กลับมาเป็นบวกได้ หลังวานนี้มีการปรับตัวลงแรง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้มูลค่าหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีความน่าสนใจในสายตาของนักลงทุน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ และอาจผันผวนได้ในระหว่างทาง โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามในคืนนี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ หากออกมาดีจะส่งผลให้ Bond Yield ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ ในทางตรงกันข้าม หากตัวเลขดังกล่าวออกมาไม่ดี ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
นอกจากนี้ ในวันที่ 11 พ.ค.58 ยังต้องติดตามการประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในกลุ่มยูโรโซน ที่จะมีการพิจารณาแผนในการแก้ปัญหาของกรีซ โดยกรีซมีกำหนดจ่ายหนี้ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 750 ล้านยูโร ในวันที่ 12 พ.ค.58 หากการประชุมดังกล่าวมีการกำหนดรูปแบบการแก้ปัญหาของกรีซออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ก็จะเป็นข่าวดี และส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
แต่หากยังไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจนออกมา จะทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกจากแรงขายหลังนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในกรีซ พร้อมให้แนวต้าน 1,530 จุด แนวรับ 1,480 จุด
