xs
xsm
sm
md
lg

แนะจับตาการแก้ปัญหาและความช่วยเหลือกรีซ หากออกมาได้ดี ตลาดก็น่าจะไปต่อได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดบวก 9 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ขานรับจีนผ่อนคลายทางการเงิน โบรกฯ เผยตลาดฟื้นตัวได้ดี คาดพรุ่งนี้ดัชนีเคลื่อนไหวจำกัด กรอบ 1,550-1,580 จุด แนะจับตาการแก้ปัญหาและความช่วยเหลือกรีซ หากออกมาได้ดี ตลาดก็น่าจะไปต่อได้

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 เม.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,569.35 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.58% มูลค่าการซื้อขาย 39,217.99 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,572.04 จุด และต่ำสุดที่ 1,565.30 จุด

ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 585.46 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 623.68 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,346.36 ล้านบาท และ นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3,555.50 ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักมาจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของจีนในการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกร้อยละ 1 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนไม่ให้เกิดการชะลอตัวมากเกินไป

ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2557 ที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มทยอยประกาศออกมา

ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ถือว่าฟื้นตัวได้ดี ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 10 จุด ด้วยปัจจัยเชิงบวกจากตลาดหุ้นตลาดประเทศที่ปรับตัวบวกดี โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นในยุโรป แม้จะมีแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ แต่เมื่อยังไม่มีข้อสรุป และเป็นปัญหายืดเยื้อ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบเท่าใดนัก ขณะที่ยังไร้ปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดันบรรยากาศการลงทุน

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงสั้นนี้ก็คือรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q1/2558 ที่จะทยอยประกาศออกมา โดยคาดว่ารวมทั้งหมดน่าจะอยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า คาดว่า กนง.น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิม เนื่องจากได้ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่ผ่านมา จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบปรับลดอีกครั้ง และควรปล่อยให้กลไลการทำงานนโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งก่อนทำงาน

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) คาดว่าหุ้นไทยแกว่งตัวบวกในกรอบจำกัด เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โดยให้ติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา โดยประเมินแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570-1,580 จุด

ขณะที่ นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นได้ดี เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกรับ Sentiment จากจีนที่คาดหวังผลการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ทำให้แบงก์สามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามวันศุกร์นี้ (24 เม.ย.) ผลการเจรจาระหว่างสหภาพยุโรปกับกรีซจะมีการให้ความช่วยเหลือหรือไม่ เพราะใกล้กำหนดชำระหนี้ของกรีซแล้ว รวมทั้งติดตามการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั้งในบ้านเราและสหรัฐฯ ซึ่งช่วงนี้ก็ถือว่าเป็น Earning Season ที่บริษัทต่างๆ จะทยอยประกาศงบฯ ออกมา

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ทิศทางตลาดฯ ขึ้นอยู่กับกระแสข่าวเรื่องของกรีซ หากออกมาในเชิงบวกก็จะเป็นผลดีต่อตลาดฯ แต่หากไม่มีความช่วยเหลือกรีซเพิ่มเติม ตลาดฯ ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ด้วยเช่นกัน พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,018.62 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,730.72 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,562.53 ล้านบาท ปิดที่ 536.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,375.16 ล้านบาท ปิดที่ 245.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,230.03 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น