หุุ้นไทยปิดร่วง 20 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดฝั่งยุโรปและดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ติดลบ กังวลกรณี ยูโร-กรีซ ไม่จบโดยง่าย ขณะที่ Bond Yield ของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นสูงในช่วงนี้ด้วย ทำให้ระยะสั้นมองว่า Fund Flow คงจะยังไม่ไหลเข้ามา อีกทั้งดัชนีฯ ที่ยืนเหนือระดับ 1,600 จุด ยังเปราะบาง เนื่องจาก Valuation ค่อนข้างสูง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค แนวโน้มยังมีโอกาสที่จะพักฐานต่อไป
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,587.75 จุด ลดลง 20.29 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.26% มูลค่าการซื้อขาย 50,305.12 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,610.21 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,587.75 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดในยุโรปที่ปรับตัวลงเกือบทุกตลาด เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ติดลบ ทั้งนี้ มองว่าเป็นเพราะตลาดบ้านเราขาดปัจจัยกระตุ้น และยังมีแรงกดดันจากการเจรจาหนี้ของกรีซกับทาง รมว.คลัง ของยูโรโซนที่ไม่มีบทสรุปออกมา แม้ว่าทางยูโรโซนจะพยายามช่วยเหลือกรีซ แต่กรีซก็ไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ทำให้จึงมองว่ายังไม่จบง่าย
นอกจากนี้ Bond Yield ของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นสูงในช่วงนี้ด้วย ทำให้ระยะสั้นมองว่า Fund Flow คงจะยังไม่ไหลเข้ามา อีกทั้งดัชนีฯ ที่ยืนเหนือระดับ 1,600 จุด ยังเปราะบาง เนื่องจาก Valuation ค่อนข้างสูง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซต์เวย์ และมีโอกาสที่จะพักฐานต่อไป ซึ่งพรุ่งนี้ให้ติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยให้รอดูความเห็นของคณะกรรมการ โดยเฉพาะเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
PLANB มูลค่าการซื้อขาย 6,891.68 ล้านบาท ปิดที่ 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 2.78 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,405.74 ล้านบาท ปิดที่ 13.60 บาท ลดลง 0.20 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,749.71 ล้านบาท ปิดที่ 9.00 บาท ลดลง 0.45 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,363.61 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,324.42 ล้านบาท ปิดที่ 354.00 บาท ลดลง 8.00 บาท