xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ เผยมีโอกาสสูงที่อีซีบีจะนำคิวอีมาใช้ คาดมีเม็ดเงินสูง ส่งผลบวกต่อหุ้นไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดลบ 5.64 ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ และวอลุ่มเทรดบาง ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค พร้อมระบุผลกระทบจากธนาคารกลางสวิสตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ทำให้มีการโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัย อาจเป็นผลกระทบแค่ช่วงสั้น ซึ่งทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้มากขึ้นที่อีซีบี ซึ่งจะประชุม 22 ม.ค.นี้ จะมีการนำมาตรการ QE ออกมาใช้ และยังคาดหวังว่าเม็ดเงินจะสูงด้วย และส่งผลดีต่อหุ้นไทย

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (16 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,517.74 จุด ลดลง 5.64 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,024.71 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ดัชนีปรับตัวสูงสุดแตะที่ระดับ 1,525.65 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,514.83 จุด

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนในวันนี้ นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 1,111.61 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 657.11 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,737.22 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,282.72 ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ และวอลุ่มเทรดบาง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ทำให้มีการโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็มองว่าเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เพราะความน่าสนใจของสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเริ่มน่าจูงใจน้อยลง ดูได้จาก Bond yield ของสหรัฐฯฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.7% น้อยกว่าเมื่อก่อนที่อยู่แถว 2.2-2.3%

นอกจากนี้ ยังมองว่าการปล่อยลอยตัวของเงินฟรังก์สวิสน่าจะดีต่อ SET ด้วย เพราะทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้มากขึ้นที่ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะประชุม 22 ม.ค.นี้ จะมีการนำมาตรการ QE ใช้ และยังคาดหวังว่าเม็ดเงินจะสูงด้วย ดังนั้น ในทางกลยุทธ์นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อได้ที่บริเวณ 1,500-1,510 จุด

อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามทางรัสเซียด้วย เพราะทาง S&P อาจะประกาศ Down Grade ได้ ซึ่งก็มีการมองกันว่าน่าจะประกาศในช่วงกลางเดือนนี้ ดังนั้น หากประกาศแล้วอาจจะทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีแรงเทขายได้ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะแรงเพราะนักลงทุนได้รับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ส่วนแนวโน้มในสัปดาหน้า คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะค่อยๆ ปรับตัวรีบาวนด์ขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,871.89 ล้านบาท ปิดที่ 225.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,637.05 ล้านบาท ปิดที่ 7.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,460.12 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,410.17 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท ลดลง 0.10 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,310.33 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น