xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ชี้ตลาดผันผวน เหตุเทขาย LTF&RMF แนะจับตาปัจจัยต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ชี้ตลาดหุ้นไทยครึ่งเดือนแรกผันผวนหนัก จากกองทุน LTF&RMF ครบอายุไถ่ถอนคืน อีกทั้งมาตรการสกัดหุ้นร้อนที่ประกาศใช้ออกมากดดันหุ้นขนาดกลาง และเล็ก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจากรัสเซีย และกรีซอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมกราคมนี้ยังคงได้รับแรงกดดันจากการเทขายออกของกองทุน LTF และ RMF ที่ครบกำหนดวาระไถ่ถอนออกประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถทำกำไรตามอายุสัญญาที่เติบโตขึ้นถึงกว่า 40-50% จากช่วงเวลาที่ผ่านมา

“ขณะที่มาตรการสกัดหุ้นร้อนซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้เป็นวันแรก ส่งผลกดดันให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่คึกคึกเนื่องจากมีวอลุมการซื้อขายเบาบางเพียง 20,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวที่ประกาศใช้สามารถสร้างแรงกดดันต่อหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากต่างประเทศที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยยังคงมาจากสถาณการณ์การเมืองในประเทศ รัสเซีย และกรีซ โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย ซึ่งอาจถูกสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard and Poor's (S&P) ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือลง โดยให้สถานะพันธบัตรของรัสเซียอยู่ในอยู่ในขั้นขยะ ประกอบกับสถานะของเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงมากกว่า 49% ขณะที่ประเทศกรีซ ที่เตรียมจะจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า โดยหลายฝ่ายมองว่า หากพรรคฝ่ายค้านที่มีคะแนนเสียงข้างมากสามารถเอาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ คาดว่าจะประกาศยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในระบบเศรษฐกิจของยูโรโซนอีกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนใน SET INDEX ช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากจะยังคงมีความผันผวนสูง ซึ่งควรชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร

ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนมกราคมจะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ที่จะประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องของเศรษฐกิจออกมาในลักษณะไหน ซึ่งหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้รับอานิสงส์โดยตรงถ้าหากมีการประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเสริมสภาพคล่องเป็นไปตามคาด

“ขณะเดียวกัน คาดว่ากรอบดัชนี SET INDEX จะมีแนวรับอยู่ที่ 1,460 จุด ซึ่งหากสถานการณ์ตลาดเลวร้ายที่สุดคาดว่า ดัชนี SET INDEX จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1,420 จุด ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,520 จุด”
 


 

กำลังโหลดความคิดเห็น