xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อถือเงินสด 40-50% ของพอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดร่วง 12 จุด อ่อนตัวมากกว่าตลาดในภูมิภาค คาดเกิดจากวอลุ่มเทรดที่เบาบางในวันนี้ ซึ่งนักลงทุนต่างมีการชะลอการลงทุน ดังนั้น เมื่อมีแรงขายออกมาส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวลงได้ค่อนข้างมาก พร้อมคาดว่าพรุ่งนี้ตลาดจะซึมตัวลงต่อเนื่องด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อถือเงินสด 40-50% ของพอร์ตลงทุน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 ธ.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,498.22 จุด ลดลง 12.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.81% มูลค่าการซื้อขาย 23,113.44 ล้านบาท ด้านตลาดเอ็มเอไอ ปิดการซื้อขายที่ระดับ 690.63 จุด ลดลง 7.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,080.27 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 322.83 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,529.70 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 925.43 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 281.44 ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้ มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ดูจะอ่อนกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ดัชนีมีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยมาจากปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในวันนี้ ซึ่งนักลงทุนต่างมีการชะลอการลงทุน ดังนั้น เมื่อมีแรงขายออกมาส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวลงได้ค่อนข้างมาก ส่วนแรงซื้อของกองทุน LTF-RMF ไม่มีนัยสำคัญเท่าใด แม้แต่การทำ window dressing ก่อนปิดงบสิ้นปีนี้ก็เช่นกัน

ทั้งนี้ ตลาดยังมีปัจจัยกดดันในปี 58 จากการ Redeem ของกองทุน LTF ต้นปีที่คาดว่าจะมีการไถ่ถอนวงเงิน 1-2 หมื่นล้านบาท มาตรการคุมหุ้นร้อนอาจจำกัดปริมาณการซื้อขายของหุ้นขนาดกลางและเล็ก ทำให้ราคาปรับตัวได้ไม่มาก

ส่วนปัจจัยจากนอกประเทศเรื่องของรัสเซียมีโอกาสสูงที่อาจถูก S&P ปรับลดอันดับเครดิตลงสู่อันดับ junk ด้วย คาดว่าจะประกาศในช่วงกลางเดือน ม.ค.58 อย่างไรก็ตาม วันที่ 22 ม.ค.58 จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งต้องลุ้นว่าทาง ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) เชื่อว่าตลาดจะซึมตัวลงต่อเนื่องด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อถือเงินสด 40-50% ของพอร์ตลงทุน พร้อมให้แนวต้าน 1,520 แนวรับ 1,485 จุด

ด้าน น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2558 กรอบบนที่ระดับ 1,790 จุด กรณีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโตร้อยละ 4.5 แต่หากจีดีพีโตร้อยละ 3.5 ดัชนีจะมีกรอบล่างที่ 1,375 จุด

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันหากพิจารณาจากระดับ P/E ที่ 18 เท่า ถือว่าค่อนข้างแพง อาจมีผลให้นักลงทุนอาจจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และหันไปลงทุนในตลาดที่มีระดับ P/E ที่ต่ำกว่า โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ ได้แก่ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในปี 58 มีแนวโน้มผันผวนสูง

นอกจากนี้ มีแนวโน้มความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 58 ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมาตั้งแต่ปีก่อน อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น และคาดว่าเม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยในปี 58 เนื่องจากปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น