ประชุมผู้ถือหุ้น “เอ็น.ดี.รับเบอร์” ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 3 เม.ย.2558 กำหนดจ่าย 23 เม.ย.นี้ “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” ประกาศเดินหน้าธุรกิจ พร้อมสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุด วางเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 796 ล้านบาท รุกงานต่างประเทศ หวังดันสัดส่วนเพิ่มเป็น 60% จากเดิม 50% ล่าสุด เจรจาส่งออเดอร์ให้ลูกค้าแดนภารตะคืบหน้ากว่า 90% คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/58
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2557 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2557 ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 เมษายน 2558 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 9 เมษายน 2558 และขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผล) ในวันที่ 3 เมษายน 2558 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 เมษายน 2558
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 796.13 ล้านบาท ซึ่งแม้คาดว่า ตลาดภายในประเทศกำลังซื้อจะยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทได้กระจายความเสี่ยง โดยมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 60% จากเดิม 50% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาออเดอร์จากอินเดีย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2/2558
โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถส่งออเดอร์ไปอินเดียประมาณ 4-5 ล้านบาท/เดือน และหลังจากนั้นคาดว่าจะมีออเดอร์ประมาณ 8-10 ล้านบาท/เดือน ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ทำให้ในปีนี้จะไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มเติม
“สินค้าในกลุ่มตลาดทดแทนภายในประเทศ (REM) ปีนี้ค่อนข้างซบเซาจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แต่บริษัทก็จะเน้นการทำกิจกรรมกับตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเน้นการรับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดย OEM ในประเทศมีแผนขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มส่งออเดอร์ให้แก่กลุ่มซูซูกิแล้ว ขณะที่ OEM ในต่างประเทศ นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าหลักที่มาเลเซียแล้ว บริษัทยังมีแผนการขยายตลาดไปยังอินเดียเพิ่มเติม” นายชัยสิทธิ์ กล่าวในที่สุด
